นพ.ยง เตรียมผลิตเซรุ่มจากพลาสมาผู้ป่วยโควิดที่หายดีแล้ว

วันที่ 6 กรกฎาคม มติชน รายงานว่า ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยถึงความคืบหน้าในการใช้พลาสมาจากผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาหายแล้ว มาสร้างแอนติบอดี้ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่

ศ.นพ.ยง กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการชัดเจนว่ายาชนิดใดใช้รักษาโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ด้วยหลักของภูมิต้านทาน เมื่อคนไข้หายจากโควิด-19 กลไกตามธรรมชาติร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานขึ้น โดยสร้างได้สูงมากในช่วง 4-6 สัปดาห์แล้ว ก่อนจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ เชื่อว่าจะอยู่ถึง 6 เดือน

โดยข้อมูลจากการศึกษาร่วมกันระหว่าง กรุงเทพมหานคร (กทม.) กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ในการศึกษาประชากรที่หายจากโควิด-19 แล้ว ประมาณ 300 คน พบว่า ร้อยละ 10 ตรวจไม่พบภูมิต้านทาน และช่วง 4 สัปดาห์ ภูมิต้านทานจะมีปริมาณค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นภูมิที่ต่อต้านกับหนามแหลมของไวรัส เปรียบเสมือนเซรุ่มหรือแอนติบอดี้ ที่คอยปกป้องหรือยับยั้งไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์

ดังนั้น การใช้พลาสมา หรือน้ำเหลืองของผู้ป่วยที่หายจากโรคแล้ว ซึ่งจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อโรคโควิด-19 จึงมีความสำคัญ

“ผู้ที่จะบริจาคพลาสมาได้โดยทั่วไป จะต้องหายจากโรคโควิด-19 แล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน ต้องตรวจเชื้อจากสารคัดหลั่งในลำคอและตรวจในเลือดว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด-19 แล้ว อายุ 18-60 ปี น้ำหนักมากกว่า 50 กิโลกรัม ร่างกายแข็งแรงตามเงื่อนไขการการบริจาคโลหิต ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นข้อห้ามในการที่จะมาบริจาค โดย 1 คน สามารถบริจาคได้ 6 ครั้ง ทุก 2 สัปดาห์ ได้พลาสมาครั้งละ 500-600 ซีซี จะแบ่งเป็น 2 ถุง ถุงละ 250 ซีซี และ 300 ซีซี เพื่อให้กับผู้ป่วยตามน้ำหนักตัวหากมากกว่า 60 กิโลกรัม จะให้ถุงละ 300 ซีซี เมื่อให้แล้วภายใน 24-48 ชั่วโมง อาการไม่ดีขึ้นสามารถให้ซ้ำอีกได้” ศ.นพ.ยง กล่าว

ขณะนี้มีอาสาสมัคร มาบริจาคให้กับศูนย์บริจาคบริการโลหิตแห่งชาติแล้วกว่า 150 คน ได้พลาสมาที่มีภูมิต้านทานสูงมากกว่า 250 ถุง

ซึ่งในการใช้รักษาคนป่วย 1 คน จะใช้ประมาณ 1-2 ถุง ในจำนวนนี้สามารถใช้รักษาได้ราว 100 คน แต่ยังไม่ได้มีการนำไปใช้กับผู้ป่วยในประเทศไทย เพราะสถานการณ์การระบาดในประเทศไทยดีขึ้น จึงมีการเก็บรักษาไว้ในคลังสำรองสามารถเก็บไว้ได้นาน 1 ปี

และหากมีผู้มาบริจาคเป็นจำนวนมาก เมื่อสามารถบริจาคได้ 600-1,000 ถุง ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติมีความสามารถที่จะเอาพลาสมาทำเป็นเซรุ่ม โดยเอามาทำให้ปริมาณพลาสมาเข้มข้น ก็จะสามารถบรรจุขวดและมีปริมาณแอนติบอดี้ต่อ 1 ขวด ค่อนข้างสูง สำหรับฉีดใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 เหมือนเซรุ่มที่ใช้ในการรักษาไวรัสตับอักเสบบี หรือเซรุ่มรักษาพิษสุนัขบ้า และการเก็บในรูปแบบนี้จะอยู่ได้นานขึ้น

จึงยังยินดีที่จะให้ผู้ป่วยที่หายแล้ว และสนใจมาบริจาคพลาสมาให้กับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ

“ข้อมูลทางตะวันตก การใช้พลาสมาในการรักษาผู้ป่วยในสหรัฐอเมริกา มากกว่า 10,000 ถุง มีการศึกษาความปลอดภัยแล้ว 5,000 คน พบว่า ปลอดภัย อาการข้างเคียงเหมือนกับการให้เลือดหรือน้ำเหลืองในผู้ป่วยโรคอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้มีรายงานออกมาค่อนข้างมากมายทั้งในประเทศจีน ฝรั่งเศส ฮังการี อิตาลี หรือแม้กระทั่งสหรัฐ ที่มีการให้มากที่สุด พบว่าได้ผลดีจำนวนมาก ส่วนที่ให้แล้วไม่ได้ผลนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการให้ในคนไข้ที่มีอาการค่อนข้างมาก หรืออยู่ในระยะที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือใช้ปอดเทียมแล้ว โอกาสที่จะได้ผลก็ค่อนข้างน้อย” ศ.นพ.ยง กล่าว