แอร์เอเชีย ปรับสารพัดกลยุทธ์ เพิ่มทุน-ขนอาหารบนเครื่องขายในสนามบิน

แอร์เอเชีย ปรับแผนกลยุทธ์การทำธุรกิจใหม่หลังโควิด-19 ทั้งการเพิ่มรายได้ หาเงินทุน ลดต้นทุน จัดโปโมชั่นดึงลูกค้า รับการปิดให้บริการเที่ยวบิน 2 เดือนกระทบธุรกิจมาก จากนี้เร่งฟื้นสายการบินเต็มที่ หลัง 7 สายการบินหารือนายก หวังมาตรการซอฟต์โลนเสริมสภาพคล่อง มั่นใจแอร์เอเชียไม่ลดพนักงานแน่นอน

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยระหว่างโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง (พศส.) 2563 โดยได้บรรยาย ในหัวข้อ “สายการบินกระทบแรง – ปรับตัวแรง ภายใต้ธุรกิจหลัง Covid แบบ New Normal” เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2563 ว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบต่อเศรษฐกิจ การล็อกดาวน์ประเทศ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสายการบิน ส่งผลให้แอร์เอเชียหยุดให้บริการทันทีเป็นเวลามากว่า 2 เดือน ทำให้แอร์เอเชียต้องปรับตัวธุรกิจภายในเพื่อยังคงให้ดำเนินธุรกิจและรายได้ให้กับองค์กร ทั้งนี้ แอร์เอเชียยังมั่นใจไม่มีการลดพนักงานอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ คาดว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นฟื้นตัวได้ดีในปี 2565 นี้

ทั้งนี้ จากช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 แอร์เอเชียปิดบริการสายการบินไปนานกว่า 2 เดือน และหลังจากนั้นปิดบริการก็เริ่มเปิดให้บริการสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งเปิดให้บริการเครื่องบินครั้งแรกเพียง 3 ลำและทยอยเปิดให้บริการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และในเดือนกันยายน 2563 แอร์เอเชียจะนำเครื่องบินมาให้บริการทั้งสิ้น 30 ลำ ซึ่งเป็นจำนวนเครื่องบินเพียงครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 60 ลำ แต่ทั้งนี้ จากจำนวนเครื่องบินที่ให้บริการนั้นยังมองว่ายังไม่เพียงพอต่อทำรายได้ให้กลับมาหรือการกำไรได้ โดยหากจะให้รายได้กลับมาและมีกำไรได้จะต้องเปิดให้บริการเครื่องบินประมาณ 40-45 ลำ

“สายการบินหากทำกำไรให้ได้ 3-5% ในช่วงวิกฤติแบบนี้ถือว่าเก่งมาก เพราะหากดูในอดีต แอร์เอเชียเคยปิดให้บริการเที่ยวบินสูงสุดเพียงแค่ 3 วันช่วงมีปัญหาเรื่องของการปิดสนามบิน แต่วิกฤติโควิด-19 แอร์เอเชียปิดให้บริการถึง 2 เดือนกว่าถือว่าเป็นเรื่องที่กระทบอย่างมาก ส่งผลให้ต้องปรับเปลี่ยนการดำเนินการให้กับธุรกิจและการทำงานของพนักงานเพื่อลดต้นทุน โดยจากการประเมินรายได้ตอนนี้ แอร์เอเชียสามารถดำเนินธุรกิจได้ในระยะอีก 2 เดือนจากนี้ ดังนั้น แอร์เอเชียจำเป็นต้องหาแหล่งเงินทุนเข้ามาเพื่อดำเนินธุรกิจ”

สำหรับแหล่งเงินทุนสำคัญ มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงิน 2.4 หมื่นล้านบาทของรัฐบาลเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยเหลือสายการบินได้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาผู้ให้บริการ 7 สายการบินได้เข้าหารือกับพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังจากได้ทำหนังสือขอให้รัฐบาลพิจารณามาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจการบินของประเทศไทยเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งคาดว่าน่าจะมีข้อสรุปมาตรการช่วยเหลือได้ภายในเดือนตุลาคม 2563 นี้ เพื่อเป็นการเสริมสภาพคล่องให้แก่สายการบินในประเทศกลับมาดำเนินธุรกิจได้

“ส่วนแผนธุรกิจต่างๆของทุกสายการบินนั้นได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับเสนอกับยังเอ็กซิมแบงก์ และหารือในรายละเอียดทั้งหมดแล้ว รอเพียงการอนุมัติเบิกจ่ายจากกระทรวงการคลัง ส่วนปัญหาเรื่องของหลักทรัพย์ค้ำประกันนั้น เนื่องจากสายการบินไม่มีได้เสนอ 2 ทางเลือก คือ ให้นำเรื่องขอความสามารถการสร้างรายได้ของสายการบินค้ำได้ไหม หรือให้รัฐบาลค้ำประกัน โดยระยะเวลาช่วยเหลือ 5 ปี หากไม่มีมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของรัฐบาล แอร์เอเชียก็พร้อมที่จะหาช่องทางในการหาแหล่งเงินทุนเข้ามาดำเนินธุรกิจ เช่น การเพิ่มทุน การกู้เงิน แต่ก็ต้องยอมรับว่าสายการบินกู้เงินผ่านสถาบันการเงินตอนนี้ลำบาก”

นายธรรศพลฐ์ กล่าวอีกว่า แอร์เอเชียมีนโยบายปรับตัวทางธุรกิจหลังช่วงโควิด-19 นอกจากมากตรการป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว ยังมีบริการตู้เช็คอินให้กับผู้โดยสาร ซึ่งการให้บริการมีการเติบโตอย่างมาก และเบื้องต้น การปรับลดพื้นที่การทำงานในออฟฟิศไปครึ่งหนึ่ง โดยจะเปิดให้พนักงานแอร์เอเชียหมุนเวียนการเข้ามาทำงาน นอกจากเป็นการลดต้นทุนได้แล้ว การทำงานของพนักงานยังมีประสิทธิภาพเป็นอย่างดี เห็นได้จากการทำงาน WFH ในช่วงที่ผ่านมา นำสินค้าที่ให้บริการบนเครื่องบิน อาทิ ขนม ชานมไข่มุก มาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งให้พนักงานบนเครื่องบินเป็นผู้ให้บริการส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อ โดยมีสาขาที่ให้บริการ 2 ที่ คือ ดอนเมืองและมักกะสัน ซึ่งสร้างรายได้และดูแลพนักงานกลุ่มให้บริการจำนวน 200 คนได้เป็นอย่างดี ซึ่งยอดขายกว่า 1,200-1,500 แก้วต่อวัน

เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถรับงานนอกได้เพื่อให้มีรายได้เสริม เปิดแพลตฟอร์มให้พนักงานในแอร์เอเชียขายสินค้าภายในแอร์เอเชียเพื่อเพิ่มรายได้ซึ่งสร้างรายได้เสริมให้กับพนักงานถึง 3,000 บาทต่อเดือน โดยพนักงานไม่มีต้นทุนใดๆเลย เพราะเป้าหมายต้องการให้พนักงานยังมีรายได้เลี้ยงตัวเอง นอกจากนี้ แอร์เอเชียยังเปิดโปรโมชั่น ตั๋วบินบุฟเฟต์ ซึ่งเปิดให้ซื้อแล้วซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งนี้ แอร์เอเชีย ยังร่วมกับไปรษณีไทย ในการให้บริการส่งสินค้าจากฟาร์ม อนาคตจะขยายให้บริการในอาเซียน ซึ่งจะร่วมกับไปรษณีทุกประเทศในการเชื่อมโยงการให้บริการขนสส่งและซื้อ-ขายสินค้า

อย่างไรก็ดี ล่าสุดแอร์เอเชียยังเปิดให้บริการเที่ยวบินใหม่นอกจากดอนเมืองแล้ว ยังมีจากสุวรรณภูมิไป 4 จังหวัด คือ เชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี จะเริ่มเปิดให้บริการได้วันที่ 25 กันยายน 2563 นี้ โดยมีเครื่องบินให้บริการ 5 ลำ ส่วนนโยบายลดคนไม่มีแน่นอน แม้ที่ผ่านมาจะมีนโยบายในการปรับลดรายได้ของพนักงานที่มีรายได้สูง แต่สำหรับพนักงานที่รายได้ 20,000 บาทต่อเดือน แอร์เอเชียไม่ได้ปรับลดรายได้แต่อย่างไร สำหรับการที่แอร์เอเชียไม่ปรับลดพนักงาน เนื่องจากเห็นว่าในปี 2564 มองว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัว

และปีถัดไปแอร์เอเชียมองว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น การเดินทาง การท่องเที่ยวจะกลับมา ซึ่งแอร์เอเชียจะเป็นผู้ให้บริการที่มีความพร้อมให้บริการมากที่สุด เพราะหากพนักงานให้บริการสายการบิน นักบิน หากจะเข้ามาให้บริการได้นั้นจะต้องผ่านการอบรมนาน ดังนั้น เราพร้อมที่จะเดินหน้าผ่านวิกฤตินี้ให้ได้เชื่อว่า 1 ถึง 1 ปีครึ่งน่าจะฟื้นกลับมาได้ ส่วนโมเดลเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวภายในประเทศไทยนั้น โดยจะมีแผนใช้กับจังหวัดภูเก็ตนั้น แอร์เอเชียพร้อมเปิดให้บริการ ซึ่งก็ต้องรอรายละเอียดอีกครั้ง และหากจะขยายให้กับนักท่องเที่ยวในยุโรป เอเชีย แอร์เอเชียมีความพร้อมเต็มที่ที่จะให้บริการชาร์เตอร์ไฟลท์เนื่องจากมีเที่ยวบินและใบอนุญาตบินพร้อมที่จะให้บริการ