บิ๊กดีล CPF เตรียมหุ้น 1.3 แสนล้าน รุกธุรกิจสุกรครบวงจรในจีน

แฟ้มภาพ

CTI บริษัทย่อย CPF รุกธุรกิจสุกรครบวงจรในจีน ทุ่ม 131,287 ล้านบาท ขยายกิจการ 43 บริษัทครบวงจร คว้ากำไรเพิ่มทันที ลุ้นมติบอร์ด อนุมัติวันที่ 27 ตุลาคม นี้

ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 คณะกรรมการบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มีมติอนุมัติให้เสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้ Chia Tai Investment Co., Ltd. หรือ CTI บริษัทย่อยในประเทศจีนเข้าซื้อธุรกิจสุกรในจีน 43 บริษัท มีมูลค่ารวม 28,140 ล้านเรนมินบิ (หรือประมาณ 4,109 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 131,287 ล้านบาท)

โดยบริษัทย่อยจะออกหุ้นใหม่เป็นการชำระราคาให้แก่ผู้ขาย ซึ่งทำให้การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ไม่มีภาระต้นทุนทางการเงินจากการเข้าซื้อเพิ่มขึ้น เพื่อควบรวมธุรกิจขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทสุกรชั้นนำในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดสุกรใหญ่ที่สุดในโลกที่มีมูลค่าประมาณ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการขยายตัว 8.3% ต่อปี ใน 10 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2553 ถึง 2562 (ตามข้อมูลสถิติทสำนักงานสถิติแห่งชาติ)

ทั้งนี้ CTI ประกอบธุรกิจหลักคือการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของซีพีเอฟผ่าน C.P. Pokphand Co., Ltd. หรือ CPP ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ต้องการควบรวมธุรกิจอาหารสัตว์เข้ากับธุรกิจสุกรในสาธารณรัฐประชาชนจีนของ Chia Tai Animal Husbandry Investment (Beijing) Co., Ltd. หรือ “ผู้ขาย” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ CPG โดยเป็นการเข้าซื้อกิจการบริษัทจำนวน 43 บริษัท

ผลจากการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้จะเป็นการสร้างโอกาสให้ CTI ได้ขยายการประกอบธุรกิจเข้าสู่ตลาดสุกรของจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต เป็นการรวมการดำเนินธุรกิจในแนวดิ่ง (Vertical Integration) ทำให้ดำเนินธุรกิจสุกรครบวงจร ตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสุกร โรงชำแหละและแปรรูปสุกร ซึ่งจะทำให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดเต็มรูปแบบมากขึ้น

หากการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้สำเร็จ จะทำให้ CTI มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นจากธุรกิจสุกรที่มีผลกำไรที่ดี มีต้นทุนและประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้น และจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวต่อการขยายธุรกิจในอนาคต เนื่องจากการควบรวมธุรกิจครั้งนี้เป็นรายการเกี่ยวโยงกัน


“การอนุมัติการเข้าทำรายการจะต้องได้รับการอนุมัติโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยซีพีเอฟได้กำหนดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1 ปี 2563 ขึ้นเพื่อเสนอขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในวันที่ 27 ตุลาคมนี้”