ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติ 3 หลักเกณฑ์และเงื่อนไข ขอใช้งบประมาณ ปี 2563 ไปพลางก่อน แทนงบปี 2564 ที่ล่าช้า
วันที่ 15 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไปพลางก่อน เนื่องจากรัฐบาลมีการปรับปรุงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ซึ่งประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติทำให้กระบวนการจัดทำงบประมาณล่าช้าไปประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
จึงคาดว่าพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จะประกาศใช้บังคับไม่ทันในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 อันเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564
“กรณีดังกล่าว รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 141 บัญญัติให้ใช้กฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณปีก่อนนั้นไปพลางก่อน ประกอบกับ พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 12 บัญญัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่ล่วงแล้วไปพลางก่อนได้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกำหนดโดยอนุมัตินายกรัฐมนตรี”
นายอนุชา กล่าวว่า สาระสำคัญของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไปพลางก่อน มีดังนี้
1. ให้สำนักงบประมาณมีอำนาจจัดสรรงบประมาณให้หน่วยรับงบประมาณได้ไม่เกินหนึ่งในสี่ของแผนงานต่าง ๆ รายการงบกลาง และงบประมาณรายจ่ายสำหรับทุนหมุนเวียนที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
2. กรณีมีความจำเป็นต้องจัดสรรงบประมาณเกินกว่าหรือนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ให้สำนักงบประมาณมีอำนาจจัดสรรงบประมาณได้ตามความจำเป็น แต่ไม่เกินวงเงินงบประมาณแต่ละแผนงานรายการตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เฉพาะกรณีดังนี้
(1 รายจ่ายตามข้อผูกพันสัญญา คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล
(2 ต้องดำเนินการตามข้อตกลงที่รัฐบาลทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ สถาบันการเงินระหว่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ
(3 มีความจำเป็นเร่งด่วนซึ่งหากไม่ดำเนินการจะเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
3. ให้หน่วยรับงบประมาณจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพันได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เมื่อได้รับอนุมัติเงินจัดสรรจากสำนักงบประมาณแล้ว โดยให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ซึ่งต้องหักออกเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีประมาณ พ.ศ. 2564 ประกาศใช้บังคับแล้ว
สำนักงบประมาณได้มีหนังสือเวียนแจ้งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไปพลางก่อนและวิธีปฏิบัติฯ แล้ว ตามหนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร 0702/ ว 114 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563
ทั้งนี้ การใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ไปพลางก่อน เป็นการดำเนินการเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ประกอบกับที่ผ่านมาได้มีแนวทางปฏิบัติในการใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าว ดังนี้
ปีงบประมาณ 2550 ใช้งบประมาณ 2549 ไปพลางก่อน ไม่เกินสามในสี่ (มีเลือกตั้งทั่วไป 15 ตุลาคม 2549)
ปีงบประมาณ 2555 ใช้งบประมาณ 2554 ไปพลางก่อน ไม่เกินกึ่งหนึ่ง
ปีงบประมาณ 2557 ใช้งบประมาณ 2556 ไปพลางก่อน ไม่เกินกึ่งหนึ่ง (ทำแผน 6 เดือน)
และ ปีงบประมาณ 2563 ใช้งบประมาณ 2562 ไปพลางก่อน ไม่เกินกึ่งหนึ่ง (ใช้จริง 5 เดือน)