“FSMART” คาดปีนี้ยอดธุรกรรมเงินฝากผ่าน “ตู้บุญเติม” แตะหมื่นล้าน

“ตู้บุญเติม” คาดปีนี้ธุรกรรมเงินฝากแตะหมื่นล้านบาท จำนวนทรานแซกชั่นกว่า 20 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 81% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หนุนรายได้ส่วนนี้ 600 ล้านบาท ปี’64 ลุยเพิ่มบริการ “ถอนเงิน” สูงสุด 2 พันบาทต่อครั้ง ดันจำนวนทรานแซกชั่นเป็น 30 ล้านครั้ง รายได้แตะ 900 ล้านบาท

ตู้บุญเติม
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี

นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส(FSMART) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทประเมินว่ายอดธุรกรรมเงินฝากผ่าน “ตู้บุญเติม” จะแตะระดับหมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นจำนวนทรานแซกชั่นกว่า 20 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 81% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยขณะนี้มีผู้ใช้งานประจำอยู่กว่า 1 ล้านราย จากฐานลูกค้าทั้งหมด 22 ล้านราย อย่างไรก็ดีคาดว่าหลังจากบริษัทหารือธนาคารพันธมิตรเพื่อขยายการทำธุรกรรมถอนเงินอัตโนมัติได้ในต้นปี 2564 จำนวนทรานแซกชั่นปีหน้าจะกระโดดไปแตะ 30 ล้านครั้งได้

โดยปัจจุบันกำหนดการฝากเงินเข้าบัญชีได้สูงสุด 5,000 บาทต่อครั้ง ส่วนการถอนเงินจะกำหนดสูงสุด 2,000 บาทต่อครั้ง บริษัทจะคิดค่าบริการอยู่ที่ 30 บาทต่อครั้ง ทำให้ปีนี้บริษัทจะมีรายได้จากธุรกรรมเงินฝากประมาณ 600 ล้านบาท และปีหน้ารวมธุรกรรมถอนเงินเป็น 900 ล้านบาท

“ธุรกรรมฝากเงินเราไม่มีต้นทุน เพราะเป็นการอัพเกรดซอฟแวร์เข้ามา แต่ถ้าเป็นตู้ถอนเงินเริ่มมีฮาร์ดแวร์เข้ามา ทำให้มีต้นทุนส่วนนี้บ้าง” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว

นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทเป็นพันธมิตรร่วมกับ 6 ธนาคาร ซึ่งประกอบด้วย 1.ธนาคารไทยพาณิชย์ 2.ธนาคารกสิกรไทย 3.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 4.ธนาคารกรุงไทย 5.ธนาคารออมสิน 6.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) อย่างไรก็ดี ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาธนาคารกรุงเทพ เพื่อร่วมมือขยายช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้าธนาคารในฐานะตัวแทนธนาคาร(แบงกิ้งเอเย่นต์) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ช่วงปี 2564

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกรรมเติมเงินมือถือ 70% ธุรกรรมเงินฝาก 20% ส่วนที่เหลืออีก 10% มาจากธุรกรรมการชำระบิล การเติมเงินในเกมออนไลน์ และการขายประกัน

“เรามีลูกค้ามากกว่า 22 ล้านราย การใช้งานผ่านตู้บุญเติมเฉลี่ย 1.6 ล้านครั้งต่อวัน ผ่านจุดให้บริการมากกว่า 1.3 แสนจุดทั่วประเทศ โดยเราเป็นเจ้าของตู้ทั้งหมด แต่การไปวางตู้จะเป็นลักษณะแฟรนไชส์ และนำรายได้มาแบ่งกัน” นายณรงค์ศักดิ์กล่าว