IMF ปรับจีดีพีโลกปี’63 เหลือ -4.4%-เศรษฐกิจไทย -7.1%

IMF ปรับจีดีพีโลกปี’63 เหลือ -4.4% – เศรษฐกิจไทย -7.1% ยืนยันดาวน์ไซด์จำกัด

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด รายงานว่า วานนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) Revise up จีดีพีโลกปี 2563 ขึ้น คือ ปรับขึ้นเป็นหดตัว 4.4% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เดิมคาด -4.9% หลักๆ เนื่องจากการปรับเพิ่ม GDP ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วดีขึ้น อาทิ สหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่น, จีน เป็นต้น ส่วนไทย IMF ปรับเพิ่ม GDP ปี 2563 เหลือหดตัว -7.1% (เดิมคาด -7.7%) ตอกย้ำความเชื่อว่า Downside ของเศรษฐกิจไทยเริ่มจำกัด ส่วนปี 2564 โดยส่วนใหญ่ปรับคาดการณ์ลง

แม้มุมมอง Downside จีดีพีปี 2563 จะจำกัด อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยง คือ การระบาดของไวรัส COVID-19 ล่าสุดเพิ่มขึ้น ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจยังไม่กลับมาระดับปกติ และล่าสุดความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีน เผชิญอุปสรรคอีกครั้ง ดังนี้

•  จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นต่อ วานนี้เพิ่มอีก 2.75 แสนราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม(Total Case) ทั่วโลกแตะระดับ 38 ล้านรายแล้ว และในภูมิภาคเอเชีย หลายประเทศยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูง เช่น เมียนมาพบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 1,123 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในเมียนมาร์แตะระดับ 3 หมื่นราย, จีน ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 20 ราย สูงสุดในรอบ 2 เดือน

•  การพัฒนาวัคซีนกลับมาเผชิญอุปสรรคอีกครั้ง: วานนี้บริษัท Johnson & Johnson ประกาศหยุดการพัฒนาวัคซีน COVID-19 ชั่วคราว (Temporarily Paused) เนื่องจาก Johnson & Johnson ตรวจพบอาการป่วยที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ในกลุ่มอาสาสมัคร ซึ่งคล้ายกับกรณีของบริษัท AstraZeneca ที่ประกาศหยุดพัฒนาวัคซีนชั่วคราว 9 ก.ย. (ปัจจุบันกลับมาทดสอบตามปกติ), และอีกบริษัท คือ  Eli Lilly’s บริษัทผู้พัฒนายา สัญชาติสหรัฐ) หยุดการทดลอง Antibody รักษา COVID-19 เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย

จากความเสี่ยงของ COVID-19 ข้างต้น เมื่อรวมกับวัคซีนกลับมาเผชิญอุปสรรค ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ STGT, STA และ NER