สรท. จ่อลดประมาณการณ์ส่งออกไทย หลัง “ทรัมป์” ตัดจีเอสพี

ส่งออกไทย ปี 2564 เดี้ยง สรท.จ่อปรับประมาณการณ์ไปไม่ถึง 5% หลังทรัมป์ตัดจีเอสพีไทย หวังผลกู้คะแนนเลือกตั้ง แนะรัฐ หาทางเจรจา FTA ลดภาษีถาวร อย่ารอ GSP

วันที่ 31 ตุลาคม 2563 นางสาวกัญญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เปิดเผยว่า ขณะนี้สรท.กำลังวิเคราะห์ผลกระทบรายสินค้าจากกรณีที่สหรัฐระงับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (จีเอสพี) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ ว่าจะกระทบต่อภาพรวมการส่งออกปี 2564 จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5% จากปี 2563 ที่คาดว่าจะติดลบ 6.5 ถึง ลบ7% หรือไม่

“เดิมเมื่อตัวเลขส่งออก ก.ย.ดีเราคิดว่าส่งออกปีนี้จะติดลบลดลงจาก 7% เหลือลบ 8- ลบ 6.5% และปีหน้าจะฟื้นเป็นบวก 5% แต่ก็ยังไม่ดีเท่าปี 2562”

“ตลาดสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 14% ของการส่งออกไทย การตัดสิทธิ์จะกระทบ หรือไม่ขึ้นอยู่กับ สินค้าที่ถูกตัดสิทธิ์เป็นสินค้าที่ไทยผลิตและส่งออกให้สหรัฐเพียงรายเดียวหรือไม่ หากไทยผลิตรายเดียวผู้บริโภคสหรัฐจะต้องบริโภคสินค้าราคาสูงขึ้น แต่หากสินค้าที่ถูกตัดสิทธิ์เป็นสินค้าที่มีผู้ผลิตเช่นเดียวกับไทย ก็จะทำให้ไทยเสียเปรียบการส่งออก ซึ่งขณะนี้ก็มีปัจจัยลบจากโควิด กระทบกำลังซื้อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว”

สำหรับสาเหตุที่ประกาศตัดสิทธิก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้ คาดว่าเป็นการหวังผลทางการเมือง เพราะขณะนี้เศรษฐกิจชะลอตัวจากที่ไม่ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ประกอบกับไทยส่งออกไปสหรัฐ เยอะมาก 9 เดือนที่ผ่านเติบโตถึง 7% เทียบกับตลาดจีนที่เศรษฐกิจฟื้นยังไมาดีเท่ากับสหรัฐเลย ทำให้เกิดขาดดุลการค้ากับไทย นำมาสู่การใช้มาตรการ

อย่างไรก็ตาม ไทยไม่ควรรอพึ่งจีเอสพี เพราะเป็นสิทธิพิเศษที่เกิดจากการให้ฝ่ายเดียว ดังนั้น ไทยควรพิจารณาเรื่องการจัดทำความตกลงเปิดเขตการค้าเสรีซึ่งเป็นการลกฃดภาษีระหว่างกันอย่าถาวร หากไบเดนชนะเลือกตั้งก็มีโอกาสที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับไทยมากขึ้น เพราะนโยบายต่างจากทรัมป์