คลัง ชี้อนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์กว่า 9 พันล้านบาท

เงินกู้ฉุกเฉิน

คลัง รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประจำเดือน พ.ย.63 ชี้มีผู้ได้รับอนุญาตดำเนินการสะสมแล้ว 896 ราย อนุมัติสินเชื่อไปแล้วกว่า 9 พันล้านบาท ด้านสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท NPL 15.97% ลดลงจากเดือน ก.ย. อยู่ที่ระดับ 16.25%

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 ภาพรวมการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) มีผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 896 ราย ใน 73 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบธุรกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (533 ราย) รองลงมา ได้แก่ ภาคกลาง (142 ราย) ภาคเหนือ (113 ราย) ภาคตะวันออก (63 ราย) และภาคใต้ (45 ราย) ตามลำดับ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ที่กระทรวงการคลังได้เปิดให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม 2563 ได้มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 368,197 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 9,093.94 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 24,698.57 บาทต่อบัญชี ซึ่งมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

(1) สินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์ ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกไฟแนนซ์สะสมสุทธิทั้งสิ้น 868 ราย ใน 75 จังหวัด และมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 799 ราย ใน 73 จังหวัด โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา (70 ราย) กรุงเทพมหานคร (60 ราย) และขอนแก่น (49 ราย)

(2) สินเชื่อประเภทพิโกพลัส ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 มีจำนวนผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อประเภทพิโกพลัสสะสมสุทธิทั้งสิ้น 122 ราย ใน 40 จังหวัด และมีจำนวนผู้เปิดดำเนินการแล้ว 97 ราย ใน 33 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 4 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา และระยอง) โดยจังหวัดที่มีผู้เปิดดำเนินการมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ นครราชสีมา (15 ราย) อุดรธานี (8 ราย) และอุบลราชธานี (7 ราย)

(3) ภาพรวมสถานะสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2563 มียอดสินเชื่อคงค้างจำนวนทั้งสิ้น 162,759 บัญชี คิดเป็นจำนวนเงิน 3,654.89 ล้านบาท โดยมีสินเชื่อค้างชำระ 1 – 3 เดือน สะสมรวมทั้งสิ้น 22,699 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 548.07 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.00 ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสม และมีสินเชื่อค้างชำระที่เกินกว่า 3 เดือน (NPL) สะสมรวมจำนวน 25,121 บัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงินสะสมรวม 583.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.97 ของยอดสินเชื่อคงค้างสะสมลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับยอด NPL ของเดือนกันยายน 2563 (ร้อยละ 16.25)

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังคงดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาคีแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมาย ซึ่งนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมายจำนวนสะสม 7,747 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2563 จำนวน 111 ราย


ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ที่เปิดดำเนินการได้ทางเว็บไซต์ www.1359.go.th และสามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบที่ผิดกฎหมายได้โดยตรงที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1599, ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 0 2255 1898, ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์การกู้ยืมเงินโดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1155