ศบค.ชี้เหตุระบาดใหญ่ คลัสเตอร์”โคราช-ชัยภูมิ” โยงมาจาก “เยาวราช”

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน-ศบค.-ศูนย์โควิด
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.

ศบค. ถอดบทเรียน วิเคราะห์คลัสเตอร์ที่โคราช-ชัยภูมิ เริ่มมาจากมีกลุ่มเพื่อนไปเที่ยว “เยาวราช ” ก่อนแพร่ระบาดไปติดงานเลี้ยงวันเกิด กระจายไปรวม 7 กลุ่มก้อน ติดเชื้อไป 71 คน ชี้โควิดระลอก 3 อัตราการตายเกือบครึ่งมาจากการติดเชื้อจากบุคคลในครอบครัว

วันที่ 22 เมษายน 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า วันนี้ได้การวิเคราะห์กลุ่มก้อนของคลัสเตอร์ในสัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์ที่ 16 คือตั้งแต่วันที่ 18-20 เมษายน 2564 ที่ผ่านา พบว่า คลัสเตอร์ จ.นครราชสีมา มีการติดเชื้อ 5 กลุ่มก้อน ติดเชื้อ 71 คน พระนครศรีอยุธยา 1 กลุ่มก้อน ติดเชื้อ 5 คน และอ่างทอง 1 กลุ่มก้อน ติดเชื้อ 3 คน แม้จะลดลงแต่ตัวเลขยังเยอะพอสมควร โดยเฉพาะกลุ่มก้อนเดียวของนครราชสีมา

สำหรับกลุ่มก้อนของนครราชสีมา ทางกรมควบคุมโรคได้วิเคราะห์ออกมา พบมีทั้งหมด 7 คลัสเตอร์ ซึ่งเกิดขึ้นทั้งนครราชสีมา รวมไปถึงชัยภูมิด้วย ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกัน ตัวเลขก้อนใหญ่สุดคืองานเลี้ยงวันเกิดที่ อ.ปากช่อง ติดไป 47 ราย อินเด็กเคสคือมีกลุ่มเพื่อนที่ไปเที่ยวเยาวราชและนำมาติดในที่นี้ จนนำมาเกิดอีก 6 คลัสเตอร์ คือ โรงเหล้า อ.เมือง นครราชสีมา หมูกระทะ อ.เมืองนครราชสีมา ร้านคาราโอเกะ ในอ.เมือง นครราชสีมา แล้วไปที่ผับบาร์ชัยภูมิ งานเลี้ยงทหารอากาศที่ อ.เมืองนครราชสีมา และกลุ่มครอบครัวของบุคลากรทางการแพทย์ ที่ชัยภูมิ ซึ่งมี 8 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ศบค.ชุดเล็กนำข้อมูลที่กรมควบคุมโรคไปวิเคราะห์อัตราการเสียชีวิต เปรียบเทียบ 3 ระลอก คือ ระลอกแรกคือตลอดปี 63 เสียชีวิต 67 คน เป็นคนไทย 58 ราย ต่างชาติ 9 ราย จากผู้ป่วย 6,772 ราย คิดเป็น 0.82% ระลอกสอง ตั้งแต่ ม.ค.-มี.ค. 64 เสียชีวิต 27 คน โดยเป็นคนไทย 26 คน ต่างชาติ 1 คน จากผู้ป่วย 21,035 ราย คิดเป็น 0.13% ส่วนระลอกสาม เม.ย. 64 เดือนเดียว เสียชีวิต 16 คน เป็นคนไทย 15 คน ต่างชาติ 1 คน จากจำนวนผู้ป่วย 17,780 ราย คิดเป็น 0.1% โดยอัตราการเสียชีวิตสูงสุดยังอยู่ที่ระลอกแรก แต่จะเห็นว่าระลอกนี้ตัวเลขทะยานเพิ่มขึ้นมาก

สำหรับปัจจัยเสี่ยง ประวัติเสี่ยง มาจาก 3 ปัจจัย คือ สถานบันเทิง ทำงานในแหล่งชุมชน ตลาด ติดเชื้อจากคนในครอบครัว ซึ่งคล้ายกันทั้ง 3 ระลอก ส่วนอายุเฉลี่ยผู้เสียชีวิตพบว่า ระลอกเม.ย. 64 น้อยที่สุด คือ เฉลี่ย 56 ปี ระลอกสองอยู่ที่ 64 ปี และระลอกแรกอยู่ที่ 58 ปี แต่สัดส่วนแล้วยังอยู่ที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป 50% ส่วนการมีโรคประจำตัวเป็นความเสี่ยงเสียชีวิตของทุกระลอก ในระลอกแรกผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว 64% ระลอกสอง 89% ระลอกนี้ 93%

“สิ่งสำคัญตอนนี้อยากให้เห็นว่าปัจจัยเสี่ยง แหล่งชุมชน สถานบริการต่างๆ เป็นความเสี่ยง เกือบครึ่งผู้เสียชีวิตในปี 64 เกิดขึ้นจากการติดเชื้อกันของคนในครอบครัว ขอให้เป็นอุทาหรณ์ดูแลซึ่งกันและกัน ดูแลกันทั้งประเทศ เซฟคนที่เหลืออยู่ให้ปลอดภัย” นพ.ทวีศิลป์กล่าว