ชลบุรีหวั่นโควิดกระทบซัพพลายเชน ห่วงล็อกดาวน์ เจ็บ แต่ไม่จบ

ชลบุรี โควิดโรงงาน
ภาพจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี

ชลบุรี หวั่นโควิดกระทบซับพลายเชน งัด bubble & seal ในเวลางานเต็มรูปแบบแล้ว พบพนักงานติดเชื้อ เหตุเลิกงานตั้งวงสังสรรค์ สูบบุหรี่-ดื่มน้ำร่วมกัน

วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์โควิด-19 ในต่างจังหวัดการแพร่ระบาดยังรุนแรง ยอดผู้ติดเชื้อในโรงงานยังอยู่ในระดับที่สูง โดยเฉพาะโรงงานขนาดใหญ่ที่มีพนักงานหลายพันคน เช่น บจ.บีฟู้ดส์ โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ต.ช่องสาลิกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ในเครือเบทาโกร มีพนักงานติดโควิด 993 คน, บจ.โดลไทยแลนด์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ติดเชื้อกว่า 1,000 คน ได้ปิดโรงงาน 14 วัน เพิ่งเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 64

นายสมบูรณ์ ตรีพรเจริญ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ในชลบุรีค่อนข้างหนัก ปัจจุบันโควิดแพร่ระบาดเข้าโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง สภาอุตสาหกรรมจังหวัดได้ประชาสัมพันธ์ให้วางมาตรการป้องกัน หลายโรงงานได้ทำ bubble & seal แต่ควบคุมพนักงานได้เฉพาะเวลาอยู่ในโรงงาน เมื่อกลับบ้านอยู่นอกเหนือการควบคุมทำให้มีการติดเชื้อ และเกิดการแพร่ระบาดเข้ามาภายในโรงงาน น่าห่วงว่าจะกระทบต่อทั้งระบบซัพพลายเชน เพราะ จ.ชลบุรี ส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้โรงงานประกอบรถยนต์ และส่งผลกระทบต่อการส่งออก จึงอยากเรียกร้องให้รัฐเร่งจัดหาวัคซีนให้ประชาชนโดยเร็ว

ทั้งนี้ ปัจจุบันในจังหวัดชลบุรีมีโรงงานประมาณ 5,800 แห่ง เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี 240 แห่ง มีพนักงานอยู่ในระบบประกันสังคม ตามมาตรา 33 ประมาณ 730,000 คน

“เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาได้หารือกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี แจ้งให้ทราบว่าพนักงานที่ติดเชื้อส่วนใหญ่เมื่อเลิกงานกลับบ้าน แล้วไปสังสรรค์กัน สูบบุหรี่มวนเดียวกัน ดื่มน้ำจากกระติกเดียวกัน การควบคุมพนักงานเมื่อออกนอกโรงงานจึงไม่ได้ผล” นายสมบูรณ์กล่าว

นอกจากนี้ อยากให้พิจารณาในเรื่องมาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงงาน และธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงประชาชนในชลบุรีให้ได้รับผลประโยชน์ในเรื่องการเยียวยา และมาตรการทางด้านการเงินต่าง ๆ เช่นเดียวกับ 10 จังหวัดด้วย

นายพิสูจน์ แซ่คู นายกสมาคมโรงแรมภาคตะวันออก กล่าวว่า ในการทำธุรกิจไม่อยากให้ล็อกดาวน์เพราะเกรงว่าจะกระทบโครงการเปิดเมืองในวันที่ 1 กันยายนนี้ ที่ได้มีการวางแผนไว้แล้ว การล็อกดาวน์ครั้งนี้ยังมองภาพไม่ออก เพราะโควิดแพร่ระบาดเป็นวงกว้างมาก “ผมมองว่าแม้จะล็อกดาวน์ 3 เดือน ก็ยังยากที่จะควบคุม แต่ถ้าจบภายใน 1 เดือนได้ ผู้ประกอบการก็ยินดี ตอนนี้ผมกลัวเจ็บ แต่ไม่จบ”

คำถามก็คือหากมีการล็อกดาวน์ จะมีมาตรการควบคุมอย่างไร ซึ่งตัวเลขคนติดเชื้อโควิดส่วนใหญ่อยู่ในโรงงาน แคมป์ก่อสร้าง ตลาด แม้ผู้ว่าฯชลบุรีประกาศให้ประชาชนที่เดินทางเข้ามาจากจังหวัดพื้นที่สีเข้มต้องกักตัว แต่ก็ยังสงสัยว่าการกักตัวจะทำได้อย่างไร เข้าใจว่าคำสั่งที่ออกมาจะควบคุมแรงงานมากกว่า ไม่ได้เกี่ยวกับภาคธุรกิจท่องเที่ยว


“ตอนนี้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจเชิงรุกในโรงงานไหนก็เจอผู้ติดเชื้อเกือบทั้งหมด การทำ bubble and seal จะสามารถควบคุมได้จริงหรือไม่ เพราะถ้าควบคุมได้จริงคงไม่มีการระบาดหนักขนาดนี้ เท่าที่ทราบการควบคุมไม่สามารถทำได้จริง แรงงานไม่ได้อยู่ในสถานที่กักตัว ยังมีการออกมาเดินภายนอกในพื้นที่ชุมชน หรือตลาดได้อยู่” นายพิสูจน์กล่าว