ก.อ. มีมติตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง “เนตร นาคสุข” รอง อสส. กรณีสั่งไม่ฟ้อง “บอส วรยุทธ” ตั้ง “ธนพิชญ์” เป็นประธานสอบ โทษสูงสุดไล่ออกจากราชการ
วันที่ 21 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ มีการวาระการประชุมเกี่ยวกับผลสรุปสอบสวนทางวินัย นายเนตร นาคสุข อดีต รองอัยการสูงสุด
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
กรณีที่ นายเนตรมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์หรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีต ผบ.หมู่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 กันยายน 2555
ตั้ง คกก.สอบวินัยร้ายแรง โทษสูงสุด “ไล่ออก”
ภายหลังการประชุมแล้วเสร็จ เมื่อเวลา 13.00 น. นายพชร ยุติธรรมดำรง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติ 9 เสียง เห็นว่า นายเนตรขาดความรอบคอบ ประมาทเลินเล่ออย่างค่อนข้างร้ายแรง ซึ่งจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป โดยวินัยร้ายแรงมีโทษทางข้าราชการ โทษสูงสุดคือการไล่ออก
หากผู้เสียหายไม่พอใจ ไม่เห็นด้วยสามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้ ทั้งนี้ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด กับนายไชยา เปรมประเสริฐ รองอัยการสูงสุด งดออกเสียง
ที่ประชุม ก.อ.ยังได้ตั้ง นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อดีตอธิบดีสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นประธานคณะกรรมการ และหลังจากนี้ นายธนพิชญ์จะเป็นผู้คัดเลือกกรรมการอีก 2 คน และเลขานุการอีก 1 คน
นายพชรกล่าวว่า วันนี้ถือว่าได้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงนายเนตรแล้ว จะมีระยะเวลาสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น 60 วัน และสามารถขอขยายระยะเวลาได้อีก 2-3 ครั้ง จะสอบในประเด็นการสั่งคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง
ส่วนประเด็นที่นายเนตรจะยื่นหนังสือลาออกอีกครั้งที่ 2 นั้นเป็นอำนาจของอัยการสูงสุดพิจารณา สำหรับประเด็นที่นายวงศ์สกุล อัยการสูงสุด ยื่นหนังสือต่อ ก.อ.ว่าไม่ประสงค์จะเป็นอัยการอาวุโส ที่ประชุม ก.อ.ได้พิจารณาแล้วและอนุมัติ และจะพ้นวาระการเป็นข้าราชการในวันที่ 30 กันยายน นี้
เมื่อถามว่าทาง ก.อ.จะส่งมติว่า นายเนตรผิดร้ายแรงให้ทาง ป.ป.ช.หรือไม่ นายพชรกล่าวว่า ทั้งอัยการและ ป.ป.ช.ต่างคนต่างสอบและอาจมีการรวมสำนวนกันในอนาคตก็ได้
นายพชรกล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีอัยการเกี่ยวข้องกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วนั้น ทางคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายเนตรที่ตั้งขึ้นมาใหม่ก็จะสอบสวนในประเด็นนี้ไปด้วย หลังจากนั้นก็จะนำเสนอผลสอบให้ ก.อ.พิจารณาลงโทษอัยการคนดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ การประชุมวันนี้ มีคณะกรรมการอัยการเข้าร่วมประชุม 13 คน จาก 15 คน เนื่องจากลา 2 คน โดยผลการลงมติเห็นควรให้สอบสวนวินัยร้ายแรงนายเนตร 9 เสียง และงดออกเสียงคือ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ นายไชยา เปรมประเสริฐ รอง อสส.
ส่วนนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ ในฐานะประธานกรรมการสอบต้องออกจากห้องประชุม และตนในฐานะเป็นประธาน ก.อ. ก็งดออกเสียงเนื่องจากไม่ใช่การชี้ขาด