ซื้อ “บ้าน” ให้ “ทำเงิน” ปล่อยเช่าถ่ายหนัง-ละคร

ทำบ้านให้ทำเงิน ตัวอย่างจากนิวยอร์ค
ภาพจาก Wall Street Journal

การใช้บ้านเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการโทรทัศน์หรือภาพยนตร์ สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ บางหลังอาจได้เงินมากจนผ่อนบ้านหมด แต่ก็แลกกับความวุ่นวายในชีวิตเจ้าของบ้าน หรือการต้องไปนอนค้างที่อื่นระหว่างการถ่ายทำ   

วันที่ 18 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Wall Street Journal เปิดเผยบทความเรื่อง “การใช้บ้านของคุณ ถ่ายทำภาพยนตร์หรือรายการ สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ก็ยังทำให้วุ่นวายอีกด้วย”

วอลล์ สตรีทฯ สอบถาม แมรี่ เคย์ ซีรี ชาวนิวยอร์กวัย 60 ปี นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ พบว่าผู้คนต่างตกใจเมื่อเธอและสามีของเธอ บิลลี่ ซีรี วัย 61 ปี ย้ายจากหมู่บ้านทางตะวันออกมาที่ Prospect Park South ในปี 2541 ย่านบรูคลินที่ขึ้นชื่อเรื่องบ้านสไตล์วิคตอเรียน ซึ่งในตอนนั้น เพื่อนของเธอบางคนบอกว่ามันไม่เจ๋งเลย

ซีรีเล่าว่า เธอถูกเพื่อนๆ ถามว่า เธอจ่ายเงิน 490,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับซื้อบ้านในบรูคลิน เธอต้องบ้าไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ของเธอให้ความมั่นใจกับ เป็นช่วงเวลาน้ำขึ้นในรีบตัก เมื่อหน่วยหาสถานที่ของกองถ่ายทีวีและภาพยนตร์มาถึง และจะทำให้พวกเขาได้เงินมากมาย

แล้ววันหนึ่ง ใบปลิวจากหน่วยทีมหาสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หรือรายการ ก็มาอยู่ในกล่องจดหมายหน้าบ้านเธอ และทำให้เธอมั่นใจว่า สามารถทำงานได้มากกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐ จนถึงปัจจุบัน

พร้อมยกตัวอย่างว่า เธอสามารถทำเงินถึง 86,000 เหรียญสหรัฐ ต่อการใช้สถานที่ 2 รายการ ได้แก่ “Girls” ใน HBO และ “Mysteries of Laura” เผยแพร่ทางช่องเอ็นบีซี ตามด้วยเรื่อง “The Affair Season 3” ของ Showtime และเมื่อรายการเผยแพร่ออกบ้าน ก็ทำให้เพื่อนบ้านมาสอบถามเรื่องบ้านและรายการกับพวกเขา

ทั้งนี้ ค่าคอมมิชชั่นภาพยนตร์ของรัฐมีความสัมพันธ์กับค่านายหน้ามากขึ้นระหว่างเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และผู้สร้างภาพยนตร์ และแม้นายหน้าซื้อ-ขายอสังหาฯ จะจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับเจ้าของบ้าน แต่บริษัทผู้ผลิตรายการจำนวนมาก (แต่ไม่ใช่ส่วนใหญ่) ยังใช้วิธีแบบเดิมๆ คือ การส่งจดหมายมาหน้าบ้านเพื่อของเช่าพื้นที่ทำงานอยู่

ตรวจกล่องจดหมายหน้าบ้านเป็นประจำ ลุ้นเงินทองกำลังเข้า

ไรอัน เอคีย์ วัย 49 ปี และ ชอว์น เคน วัย 41 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ทางเหนือของเมืองชิคาโก พบจดหมายจากบริษัทโปรดักชั่นในช่องจดหมายของบ้าน เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 และได้พบกับทีมหาสถานที่ในเดือนนั้น แต่ไม่มีการติดต่อมาตลอดฤดูร้อน

กระทั่งในเดือนกันยายน ผู้จัดการสถานที่ นิค ราฟเฟอตี เลือกบ้านของพวกเขาเป็นฉากงานศพในละครอาชญากรรมในช่อง FX  เรื่อง “Fargo Season 4” โดยฉากนี้คือเมืองแคนซัสซิตี้ในปี 2493 ขณะที่เอคีย์และเคน ซื้อบ้านมาในราคา 850,000 เหรียญสหรัฐ เมื่อปี 2559

“เราค่อนข้างแปลกใจที่พวกเขาเปลี่ยนบ้านของเราให้กลายเป็นบ้านงานศพได้เร็วขนาดนี้” เคนกล่าว

ส่วนผู้ออกแบบฉากได้เพิ่มวอลเปเปอร์ในห้องส่วนใหญ่ จากนั้นจึงย้อมวอลเปเปอร์เพื่อให้เป็นสีเหลือง พวกเขาติดตั้งประตูบานสวิงระหว่างห้องอาหารกับห้องครัวด้วย

นอกจากนี้ ยังมีโลงศพตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น โดยด้านหนึ่งของโลงศพมีอวัยวะปรากฏอยู่ มีเก้าอี้พับเป็นแถว มีที่วางดอกไม้ด้านข้าง และตู้ข้างสำหรับบริการกาแฟและชาระหว่างการชม ขณะที่เจ้าของบ้านบอกว่า เขาหลีกเลี่ยงใช้งานบริเวณนั้นของบ้าน

เคนเปิดเผยด้วยว่า การถ่ายทำเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม 2562 และน่าจะใช้เวลา 6 เดือน โดยพวกเขาอาศัยอยู่ที่นั่นยกเว้นวันถ่ายทำ และการถ่ายทำจะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงตอนเย็นหรือข้ามคืน

จาก 6 สู่ 11 เดือน โควิดทำชะงัก

เมื่อโควิดระบาด การถ่ายทำหยุดชะงักในวันที่ 11 มีนาคม 2563 โดยเหลือเวลาถ่ายทำเพียงหนึ่งหรือสองตอนเท่านั้น เคนกล่าว พวกเขาไม่กลับมาจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม และกองถ่ายยังไม่เก็บของจนถึงวันที่ 8 กันยายน 2563 จึงทำให้การถ่ายทำแทนที่จะเป็นหกเดือน กองถ่ายอยู่ในบ้านของพวกเขาเป็นเวลาถึง 11 เดือนทีเดียว

“เรามีโลงศพอยู่ในห้องนั่งเล่นมาเกือบปีแล้ว” เอคีย์กล่าว

ขณะที่ทีมงานสถานที่ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งเดือนทำให้บ้านกลับไปในสภาพเดิม รวมถึงการติดตั้งรั้วเหล็กดัดที่ล้อมรอบตัวบ้านและการปรับปรุงสนามหญ้า

เอคีย์ และเคน กล่าวว่าพวกเขาพอใจกับค่าธรรมเนียมที่ได้รับ และยอมรับว่า ไม่ได้ทำเพื่อให้ได้ประสบการณ์เท่านั้น ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธจะพูดถึงจำนวนค่าตอบแทนที่ได้รับจากการให้ใช้สถานที เนื่องจากเป็นข้อตกลง ที่ระบุให้ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ หรือ NDAs

ทั้งนี้ NDAs (nondisclosure agreement) หรือ สัญญาที่จะไม่เปิดเผยข้อมูล นับเป็นมาตรฐานข้อตกลงระหว่างเจ้าของบ้านกับบริษัทจัดหาสถานที่กองถ่าย เพื่อป้องกันการรั่วไหลของภาพฉาก บทละคร ออกไปทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ

ต้องยุติธรรมกับเจ้าของบ้าน

ด้านค่าธรรมเนียมสถานที่เชื่อมโยงกับค่าแรงของแรงงาน ตั้งแต่ดาราไปจนถึงคนแต่งตัว ขนาดของการผลิตก็มีอิทธิพลเช่นกัน

“ส่วนใดของบ้านที่เราใช้ การปรับแต่งจะมากเพียงใด การถ่ายทำจะอยู่ได้นานแค่ไหน และเจ้าของบ้านจะต้องอยู่ในโรงแรมหรือไม่ ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยทั้งหมด

“ฉันทำให้แน่ใจว่าเจ้าของบ้านเข้าใจว่าเมื่อเราทำข้อตกลง เรากำลังเริ่มต้นการเดินทางและไม่รู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร ฉันเริ่มการเจรจาทุกครั้งด้วยคำว่า เราต้องการให้คุณใช้เวลาอย่างคุ้มค่า และโปรดิวเซอร์จ้างให้ฉันค้นหาความหมายของคำนี้” เรฟเฟอร์ตี ผู้จัดการฝ่ายจัดหาสถานที่ กล่าว

ตัวอย่างบ้านอีกหลัง คือ กรณีบ้านของ แคร์โรลล์ เบลเซอร์ ในเซาท์แคโรไลนาเมื่อปี 2545 สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Notebook” เรื่องความรักโรแมนติกของไรอัน กอสลิงและราเชล แม็คอดัมส์ ที่สร้างจากนวนิยายปี 2539 ของนิโคลัส สปาร์กส์

บ้านของเบลเซอร์ ยังปรากฎเป็นฉากหนึ่งของ Sunnyside Plantation ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำหน้าที่เป็นบ้านของตัวละครที่เล่นโดย แซม เชเพิร์ด ตั้งอยู่บนเกาะเอดิสโต ที่มีกำแพงล้อมรอบ และอยู่ห่างจากเมืองชาร์ลสตัน 45 ไมล์ บ้านหลังนี้ทวดของเบลเซอร์สร้างขึ้นมาเมื่อปี 2418

“คุณพ่อผู้ล่วงลับของฉันเคยใช้บ้านนี้เป็นฉากให้บริษัท L.L. Bean (บริษัทเสื้อผ้า) ก่อนที่ฉันจะเป็นเจ้าของบ้าน” เบลเซอร์ วัย 68 ปี กล่าว

ขณะที่ เบลเซอร์ทำงานร่วมกับบริษัท Appleseed ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสตรี และมักใช้ระเบียงหน้าบ้านของเธอเป็นพื้นที่ถ่ายแคตาลอตสินค้า

เบลเซอร์กล่าวว่า เธอได้รับเงิน 2,000 เหรียญสหรัฐต่อวันสำหรับการใช้สถานที่ถ่ายทำ และจ่ายให้อีก 500 เหรียญสหรัฐ สำหรับสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ของเธอ เพื่อใช้ถ่ายคู่กับนางแบบคนหนึ่ง และเธอยังได้รับเงินอีก 2,500 เหรียญสหรัฐในวันเดียว สำหรับการให้เช่าสถานที่ถ่ายทำละครทีวี

เหล่านี้คือตัวอย่างจากเจ้าของบ้านที่ให้บริษัทจัดหาสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร หรือปกแมกกาซีนเข้ามาใช้งาน แน่นอนว่าเจ้าของบ้านจะได้รับค่าตอบแทนที่ดี แต่บริษัทผู้ผลิตก็สามารถครอบครองบ้านของคุณได้อย่างน่าอึดอัดใจ

หรือบางครั้ง จากที่ตกลงกันว่าจะถ่ายทำเพียงบางส่วนของบ้านแล้ว แต่ผู้เช่าสถานที่บางรายก็อาจจะใช้บางสถานที่ที่พวกเขาบอกว่าจะไม่ถ่ายทำเช่นกัน เช่น ตกลงที่จะใช้เฉพาะห้องครัวแล้ว แต่พวกเขาอาจต้องการถ่ายทำในห้องนอนด้วย

ดังนั้นคำแนะนำจากเจ้าของบ้านที่ให้เช่าสถานที่รายหนึ่งจึงบอกว่า ต้องมั่นใจก่อนว่า เจ้าของบ้านจะได้รับเงินพิเศษ หากมีการใช้สถานที่เกินกว่าที่ตกลงไว้แต่แรก และต้องมั่นใจว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จัดการฝ่ายจัดหาสถานที่ด้วย

ขณะที่ ทอม ยีเกอร์ ผู้จัดการฝ่ายจัดหาสถานที่รายหนึ่งแนะนำว่า หากกองถ่ายเผยแพร่ภาพพื้นที่บ้านในส่วนที่ไม่ได้ตกลงกันไว้ ก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้สถานที่ที่เพิ่มมาเพิ่มเติม เพราะโดยทั่วไปกองถ่ายจะไม่ปล่อยภาพพื้นที่ในบ้านที่ไม่ได้ขออนุญาตไว้ และหากมีการปล่อยภาพออกไปทั้งโดยไม่ตั้งใจ หรือ เป็นฉากหลังจากเรื่องก็ตาม ทางกองถ่ายก็ต้องจ่ายค่าสถานที่ให้เจ้าของบ้านเพิ่มด้วย