วีซ่า เปิดเผยสำรวจการท่องเที่ยว เผยเทรนด์คนไทยกว่า 51% ยังเที่ยวในประเทศหลังโควิด-19 ถึงปี 65 มอง 3 ปัจจัยหนุน ได้รับวัคซีน-คนติดเชื้อลดลง-มีประกัน แนะผู้ประกอบการสร้างความเชื่อมั่นความปลอดภัยทุกมิติ หลังพบนักท่องเที่ยวทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก 53% ยอมจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อจองที่พักที่ปลอดภัยมีคุณภาพ
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก เผยนักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงเลือกเดินทางเพื่อพักผ่อนภายในประเทศต่อไปในปี 2565 เพราะใช้เวลาเดินทางไม่นาน และมีความปลอดภัยกว่า จนกลายเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวสำหรับยุคหลังโควิด-19
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดเผยผลการศึกษาเรื่องความคิดเห็นของผู้บริโภคโดยวีซ่า พบว่ามากกว่าครึ่งของผู้ทำแบบสำรวจชาวไทย หรือ 51% มีแนวโน้มจะเลือกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศต่อไปจนถึงปีหน้า ขณะที่ 23% มีการวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างแดน
โดยมี 3 ปัจจัยแรกที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยรู้สึกสบายใจที่จะออกเดินทางอีกครั้ง คือ การได้รับวัคซีน 67% จำนวนการติดเชื้อทั่วโลกลดลง 55% และการมีประกันโควิด-19 หรือ 41%
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่าผู้คนยังคงระมัดระวังตัว โดยเฉพาะในเรื่องการเดินทางยิ่งชัดเจนว่าพวกเขาเลือกในเรื่องความปลอดภัยและความคุ้นเคยในสถานที่ที่จะไป
ดังนั้นผู้ประกอบการในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวทั่วประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับประเด็นเหล่านี้เพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือต่างชาติก็ตาม อีกทั้งควรสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยในทุกมิติ
โรคระบาด หนุนชำระเงินไร้สัมผัสโต
รวมถึงวิธีการชำระเงิน โดยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคการชำระเงินแบบไร้สัมผัสเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะนอกจากจะสะดวก รวดเร็วแล้ว ยังปลอดภัย นับเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการควรเดินหน้าปรับตัวเพื่อรองรับความความคาดหวังของผู้บริโภคในยามที่พวกเขาเริ่มกลับมาเดินทางท่องเที่ยวกันอีกครั้ง
ส่วนนักท่องเที่ยวทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิกก็เริ่มปรับเข้าสู่โหมดการท่องเที่ยวในรูปแบบที่แตกต่างไปจากช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19
โดยมากกว่าครึ่ง หรือ 53% เลือกที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เพื่อจองที่พักที่มีการรับรองในด้านความปลอดภัยและคุณภาพ ขณะที่ 44%กำลังวางแผนที่จะพกบัตรต่างๆ มากขึ้น เพื่อใช้จ่ายแบบคอนแทคเลสและดิจิทัลแทนการชำระด้วยเงินสด
อีกทั้ง 2 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบถาม หรือ 42% กำลังวางแผนเดินทางโดยหลีกเลี่ยงแหล่งที่มีคนรวมตัวหนาแน่น
ญี่ปุ่น เบอร์ 1 ปลายทางท่องเที่ยวชาวไทยหลังโควิด
ด้านจุดหมายปลายการท่องเที่ยวในต่างประเทศ นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่อยากที่จะเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นมากที่สุด ตามด้วยประเทศจีน ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ แคนาดา และฝรั่งเศส
ส่วนเรื่องความต้องการสำหรับการท่องเที่ยวนั้น เกือบครึ่ง หรือ 48% บอกว่าพวกเขาสนใจจะเดินทางในรูปแบบทราเวล บับเบิ้ล (travel bubble) แต่คงไม่ใช่ในระยะอันใกล้นี้
ขณะเดียวกัน 1 ใน 3 หรือ 33% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าพวกเขาสนใจที่จะเริ่มเดินทางทันทีเมื่อเปิดให้มีการท่องเที่ยวแบบทราเวล บับเบิ้ล ส่วนที่เหลือบอกว่าพวกเขาไม่สนใจที่จะท่องเที่ยวในรูปแบบทราเวล บับเบิ้ล
“การใช้ชีวิตแบบไร้เงินสดไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบายอีกต่อไป ในยุคหลังการระบาดของโควิด-19 การชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลจะเป็นเรื่องของความมั่นใจ ปลอดภัย และฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ถือเป็นเรื่องที่น่าจับตามองว่าการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศอย่างไร เนื่องจากผู้บริโภคได้มองหาวิธีใหม่ๆ ในการดูแลสุขอนามัยและความปลอดภัยของตนเอง และตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด” นายสุริพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ วีซ่าได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมากมาย เช่น โครงการมาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย (SHA) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ให้การรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัยให้กับผู้ประกอบการไทย พร้อมมุ่งมั่นที่จะยกระดับความร่วมมือเช่นนี้ให้มากยิ่งขึ้น
“หวังว่าข้อมูลจากการศึกษาในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คู่ค้าของเราที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการชำระเงินสามารถปรับตัวเข้าสู่วิถีนิวนอร์มัล และเติบโตในสภาพแวดล้อมใหม่ในปัจจุบัน” นายสุริพงษ์ กล่าว
