สภาพัฒน์ เร่งออกแบบมาตรการกระตุ้นใช้จ่ายปลายปี ลุ้นฟื้น “ช้อปดีมีคืน” ชี้รอจังหวะเหมาะสม อาจไม่ใช้เงิน พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท หลังมีเม็ดเงินเหลือเพียง 2.2 แสนล้านบาท ชี้ปี’65 ยังเสี่ยงโควิด
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า กรณีที่ภาคเอกชนเสนอให้รัฐบาลฟื้นโครงการช้อปดีมีคืน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะทำออกมาในลักษณะใด อย่างไรก็ดี ข้อเสนอจากทางภาคเอกชนที่เสนอมา พร้อมรับไว้พิจารณาทั้งหมด แต่จะนำมาใช้เมื่อไหร่นั้น จะต้องนำออกมาใช้ในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นภายในสิ้นปีนี้
- ส.ค้าปลีก จี้รัฐอัดฉีด 2 หมื่นล้าน หวนใช้ “ช้อปดีมีคืน” ดันเงินสะพัด 3-4 แสนล้าน
- อาคม ขอดูตัวเลขใช้จ่ายปลายปี ยังไม่สรุปฟื้นช้อปดีมีคืน
- อาคม เล็งฟื้น ช้อปดีมีคืน ยืดเวลา “คนละครึ่ง-ยิ่งใช้ยิ่งได้” กระตุ้นใช้จ่ายถึงตรุษจีน
“เม็ดเงินที่ออกมาภายในสิ้นปีนี้ จะเป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ที่ส่งผลต่อภาคการผลิตภายในประเทศด้วย ซึ่งจำเป็นจะต้องมี แต่จะออกมาเมื่อไหร่ต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ก็จะต้องออกมาภายในปีนี้ ส่วนจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนด้วยหรือไม่นั้น จะต้องไปถาม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง”
ทั้งนี้ พ.ร.ก.กู้เงินฉบับเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท มีเม็ดเงินเหลืออยู่ 2.2 แสนล้านบาท ในส่วนนี้จะต้องนำมาใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เนื่องจากปี 2565 ยังมีความเสี่ยงในเรื่องการแพร่ระบาดโควิด ซึ่งหากใช้มาตรการกระตุ้นบริโภคในช่วงปลายปีนี้ อาจจะไม่ได้ใช้เม็ดเงินจาก พ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาทนี้
ส่วนมาตรการที่จะช่วยผ่อนคลายจุดท่องเที่ยวนั้น ยังใช้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งต่อเนื่องถึงเดือน ม.ค. 2565 โดยขณะนี้ก็ใช้มาตรการนี้ไปก่อน ซึ่งหากจบมาตรการแล้วก็มาพิจารณาเพิ่มเติมว่าจะมีมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มเติมหรือไม่