สภาองค์กรของผู้บริโภคจ่อยื่น ครม. ค้านทรูควบรวมดีแทค

สภาองค์กรของผู้บริโภค

สภาองค์กรของผู้บริโภค ปลุก กสทช. ทำหน้าที่ผู้กำกับดูแลสกัดอำนาจเหนือตลาด ผูกขาดทางการค้า ชี้กลุ่ม ซี.พี.ควบรวมดีแทคกินส่วนแบ่งตลาด 52% กระทบผู้บริโภค 

วันนี้ 23 พฤศจิกายน 2564 นางสาวพวงทอง ว่องไว อนุกรรมการด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) กล่าวว่า จากการที่กลุ่มเทเลนอร์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ประกาศควบรวมกิจการธุรกิจโทรคมนาคมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และจะร่วมกันตั้งบริษัทขึ้นใหม่นั้น

แม้ในปัจจุบัน การควบรวมจะเกิดขึ้นในระดับผู้ถือหุ้น คือระหว่างเทเลนอร์และ ซี.พี. (ทรู คอร์ปอเรชั่น) โดยยังไม่ได้มีการควบรวม ในระดับบริษัทผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม คือระหว่าง ดีแทคกับทรู แต่ก็ย่อมจะไม่มีการแข่งขันของบริษัททั้งสอง เพราะอยู่ภายใต้บริษัทแม่เดียวกัน ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลง หรือหากมีการควบรวมกันในระดับบริษัท ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่น้อยลงชัดเจนแล้ว ยังจะส่งผลต่อราคาค่าบริการที่ผู้บริโภคต้องจ่ายด้วย

นางสาวชลดา บุญเกษม อนุกรรมการด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สอบ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาในประเทศไทยมีค่ายเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 ค่ายหลักที่แข่งขันกันอยู่ ทั้งด้านการพัฒนาบริการใหม่ ๆ การขยายพื้นที่การบริการ รวมไปถึงการแข่งขันด้านราคา

แต่หากมีการควบรวมแม้จะเป็นในระดับผู้ถือหุ้น อาจทำให้สัดส่วนแข่งขันในตลาดเปลี่ยนไป จากที่เคยมี 3 เจ้า เหลือเพียง 2 เจ้าเท่านั้น ซึ่งจะกระทบต่อผู้บริโภคจำนวนมากอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีระเด็นเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่อาจจะถูกเปิดเผยมากขึ้น

ในขณะที่นายบุญยืน ศิริธรรม ประธาน สอบ. ตั้งข้อสังเกตว่า หากข้อตกลงระหว่างเทเลนอร์กับ ซี.พี.ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล และสามารถตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ได้ กิจการภายใต้บริษัทดังกล่าวจะมีส่วนแบ่งตลาดโทรคมนาคมในประเทศไทยถึง 52%

จึงต้องการสอบถามไปยังคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ว่ากรณีดังกล่าวถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากมีส่วนแบ่งเกินครึ่งหนึ่งของตลาด

เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค นางสาวสารี อ๋องสมหวัง กล่าวย้ำว่า สอบ.ขอเรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบ ต้องหาแนวทางในการกำกับดูแลกรณีดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดอำนาจเหนือตลาดและการผูกขาดทางการค้า ซึ่งส่งผลกระทบและถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค

ทั้งนี้ สอบ.มองว่า จำนวนผู้ให้บริการ หรือค่ายมือถือ ไม่ควรลดน้อยลงจากเดิมที่มีรายใหญ่ 3 ราย ดังนั้น กสทช. ควรมีมาตรการที่ส่งเสริมให้เกิดผู้ให้บริการรายใหม่

ทั้งนี้ สอบ.จะทำหนังสือถึงคณะรัฐมนตรี กสทช.สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพรรคการเมือง เพื่อคัดค้านการพิจารณาการควบรวมดังกล่าว