กรมชลประทาน ยังไม่เก็บค่าน้ำภาคเกษตร

ขึ้นค่าน้ำตามอีสต์วอเตอร์
ภาพจากเฟซบุ๊ก eastwater

กรมชลประทานยังไม่เก็บค่าน้ำทำนาไร่ ภาคเกษตรชี้เป็นเพียงกรอบตัวอย่างเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทั้ง 4 ภาค ภายใต้ พ.ร.บ.การชลประทานฯ

วันที่ 14 มกราคม 2565 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า การเปิดรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.การชลประทานหลวง พ.ศ. … เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 เป็นประเด็นเกี่ยวกับการจัดเก็บค่าชลประทานตามหลักการใน พ.ร.บ.การชลประทานหลวง 2485 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2518 มาตรา 8 กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีอำนาจในการออกกฎกระทรวงเพื่อเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำทั้งในภาคเกษตรกรรมและนอกภาคเกษตรกรรม

ปัจจุบันยังไม่มีการเรียกเก็บค่าชลประทานในภาคเกษตรกรรม ซึ่งให้เรียกเก็บได้ไม่เกินไร่ละ 5 บาท/ปี เนื่องจากไม่มีกฎกระทรวงเรียกเก็บแต่อย่างใด มีแต่เพียงกฎกระทรวงที่ให้อำนาจรองรับในการจัดเก็บค่าชลประทานเฉพาะนอกภาคเกษตรกรรม ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม การประปา และกิจการอื่น เป็นต้น ในอัตราลูกบาศก์เมตรละ 50 สตางค์

เนื่องจากทางน้ำชลประทานตามกฎหมายว่าด้วยการชลประทานหลวงเป็นทรัพยากรน้ำสาธารณะตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 กำหนดแบ่งทรัพยากรน้ำสาธารณะออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

ประเภทที่ 1 การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อการดำรงชีพ การอุปโภคบริโภคในครัวเรือน การเกษตรหรือการเลี้ยงสัตว์เพื่อยังชีพ การอุตสาหกรรมในครัวเรือน การรักษาระบบนิเวศ จารีตประเพณี การบรรเทาสาธารณภัย การคมนาคม และการใช้น้ำในปริมาณเล็กน้อย

ประเภทที่ 2 การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การผลิตพลังงานไฟฟ้า การประปา และกิจการอื่น ๆ

และประเภทที่ 3 การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อกิจการขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำปริมาณมาก หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบข้ามลุ่มน้ำ หรือครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวาง

ทั้งนี้ ในการใช้น้ำประเภทที่ 1 ไม่ต้องขออนุญาตใช้น้ำและไม่ต้องชำระค่าใช้น้ำ ส่วนการใช้น้ำประเภทที่ 2 และประเภทที่ 3 จะต้องขออนุญาตใช้น้ำและชำระค่าใช้น้ำตามหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าใช้น้ำสำหรับการใช้น้ำประเภทที่ 2 และการใช้น้ำประเภทที่ 3 ซึ่งนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการลุ่มน้ำจะได้ออกกฎกระทรวงกำหนดต่อไป

ดังนั้น กรมชลประทานจึงต้องดำเนินการแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.การชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความสอดคล้องกับอัตราการจัดเก็บค่าใช้น้ำตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561

ส่วนในประเด็นการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชนตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 เป็นการกำหนดหลักการขึ้นมาเพื่อรองรับตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศได้กำหนดให้กรมชลประทานดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน

อย่างไรก็ตาม ตามหลักการในร่าง พ.ร.บ.การชลประทานหลวง พ.ศ. … เป็นเพียงกรอบตัวอย่างเบื้องต้นเพื่อนำไปรับฟังความคิดเห็นเท่านั้น ซึ่งทางมูลนิธิสถาบันวิจัยกฎหมายในฐานะผู้รับจ้างในการแก้ไขกฎหมายต้องสรุปภาพรวมของการรับฟังความคิดเห็นทั้ง 4 ภาค เสนอกรมชลประทานเพื่อพิจารณาให้เป็นไปตามสัญญาจ้างแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.การชลประทานหลวง ก่อนที่จะส่งมอบรายงานฉบับสมบูรณ์

เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนในการยกร่างแก้ไขกฎหมายต่อไป โดยจะมีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกรและในทุกภาคส่วนต่อไป