บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง ฉุดฟันด์โฟลว์กลับทิศ หวังหุ้นพลังงานประคองตลาด

หุ้น

“ฟิลลิป” ประเมินตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบ 1,650-1,665 จุด อาจปรับตัวลงก่อนตามบรรยากาศเชิงลบของตลาดต่างประเทศ แต่บริเวณแนวรับ 1,650 จุด น่าจะมีลุ้นรีบาวนด์ จากราคาน้ำมันโลกที่พุ่งขึ้นช่วยประคองหุ้นกลุ่มพลังงาน-แรงเก็งกำไรงบแบงก์-สถานการณ์โควิดในประเทศไม่รุนแรง

วันที่ 19 มกราคม 2565 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยว่า ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับตัวลงประมาณ 1-2% พร้อมด้วยการดีดขึ้นของ VIX Index ที่เร่งตัวขึ้นกว่า 16% จากวันก่อนหน้า หลังผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Bond Yield) สหรัฐทั้งอายุ 2 และ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาที่ 1.02% และ 1.85% ตามลำดับ สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่อสภาพคล่องที่จะหดหาย และธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้

ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม FOMC ครั้งแรกของปี ดังนั้นต้องติดตามท่าทีต่อเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐจากประธานเฟดในปีนี้อย่างใกล้ชิด และจากปัจจัยดังกล่าวทำให้เงินทุนต่างชาติ (Fund Flow) เริ่มกลับทิศไหลออกจากตลาดหุ้นไทยตลอด 3 วันทำการที่ผ่านมา กดดัน SET Index ลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 1,660 จุด

จึงคาดว่าเช้านี้ SET Index จะแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,650-1,665 จุด โดยอาจปรับตัวลงก่อนตามบรรยากาศลงทุนเชิงลบของตลาดต่างประเทศ หากแต่บริเวณแนวรับแถว 1,650 จุด น่าจะมีลุ้นรีบาวนด์ได้บ้าง จากราคาน้ำมันโลกที่พุ่งขึ้นยังช่วยประคองหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงการเก็งกำไรผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคาร อีกทั้งสถานการณ์โควิดในประเทศไม่รุนแรงขึ้น

ทั้งนี้สำหรับราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent Oil ปิดปรับตัวขึ้นราว 1-2% มาที่ 85.43 และ 87.51 เหรียญต่อบาร์เรล ตามลำดับ สาเหตุจาก 1.ความกังกลการแพร่ระบาดโอมิครอนลดลงจนอาจไม่ต้องใช้มาตรการ Lockdown เนื่องจากความรุนแรงของโรคเทียบกับสายพันธุ์เดลต้ามีน้อยกว่า 2.ได้อานิสงส์จากโรงกลั่น EXXON ที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของสหรัฐปิดซ่อมท่อส่งน้ำมันที่กิดอุบัติเหตุในสัปดาห์ก่อน

และ 3.กลุ่มกบฏได้ก่อเหตุโจมตีในสหรัฐอาหรับมิเรตส์ (UAE) ซึ่งใกล้กับบริษัทน้ำมันแห่งชาติ ทำให้ความกังวลความรุนแรงในตะวันออกกลางช่วยหนุนราคาน้ำมันไปต่อ โดยทาง Goldman Sachs คาดราคาน้ำมันจะขึ้นสู่ระดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

ด้านยอดผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศไทยลดลงอีกครั้ง อีกทั้งยอดเสียชีวิตไม่ได้เร่งตัวขึ้นเป็นสัญญาณหนุนกลุ่มเปิดเมืองน่าจะกลับมาได้อีกครั้ง รอติดตามการประชุม ศบค. พฤหัสบดีนี้อาจมีการปรับโซนสีและเปิดพื้นที่ Sandbox เพิ่มเติม และหากสถานการณ์ไม่กลับมารุนแรงคาดตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/65 กลุ่มเปิดเมืองจะโดดเด่นอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้นยังเน้นเก็งกำไรในธีม 1.กลุ่มเปิดเมือง ความกังวลโอมิครอนในประเทศเริ่มลดลง 2.หุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นจากราคาน้ำมันดิบที่ทำ New High ต่อเนื่อง และ 3.หุ้นหลบภัยในกลุ่ม Defensive หรือมีปันผลเด่น