โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกเพลิงไหม้ รับสงกรานต์ เสียหายกว่า 60 ล้านบาท

โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เพลิงไหม้
เพลิงไหม้โรงงานเอ็มแอนด์อี เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เซอร์วิส อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกวอด อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุเพลิงไหม้เสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่เกิดเหตุโรงงานปิดทำการ มีเพียงคนงานต่างด้าว 1 คนเฝ้าโรงงาน 

วันที่ 13 เมษายน 2565 มติชน รายงานว่า เมื่อเวลา 8.00 น. วันที่ 13 เมษายน พ.ต.ท.เดชา รัตนภักดี สว.สอบสวน สภ.วังน้อย ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานเอ็มแอนด์อี เอ็นจิเนียริ่งแอนด์เซอร์วิส เลขที่ 136 หมู่ 8 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

จึงเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หน่วยบรรเทาสาธารณภัย กว่า 20 คันไปควบคุมเพลิง

โดยจุดเกิดเหตุเป็นโรงงาน ลักษณะเป็นโกดัง หลังคาเหล็กสูง ผลิตเม็ดพลาสติก มีออฟฟิศสำนักงานและบ้านพักของพนักงานรวมอยู่ด้วย บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่

เพลิงลุกไหม้ตัวโรงงานอย่างรุนแรง กลุ่มควันสีดำพวยพุ่ง ประกอบกับมีลมกรรโชกแรงในหน้าร้อน ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเอาไว้ได้

ทั้งนี้ พบว่าตัวโกดังโรงงานได้รับความเสียหาย รถยนต์ 3 คัน รถโฟล์คลิฟท์ 2 คัน ถูกเพลิงไหม้เสียหาย ขณะเกิดเหตุโรงงานหยุด ไม่มีพนักงานมาทำงาน มีเพียงคนงานที่คอยดูแลโรงงานมาทำงานเพียงคนเดียว มูลค่าความเสียหายประมาณ 60 ล้านบาท

สอบถาม น.ส.ดุษฤดี แซ่แต้ อายุ 28 ปี เจ้าของโรงงานดังกล่าว เล่าว่า โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก ซึ่งก่อนหน้านี้ ประมาณปี 2553 ทำเกี่ยวกับอุปกรณ์บำบัดน้ำเสีย แต่หลังจากปี 2555 ได้เปลี่ยนมาเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก จนถึงปัจจุบัน

ในช่วงเวลาเกิดเหตุ มีคนงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงงานดังกล่าวเพียง 1 คน และได้วิ่งมาบอกตนเองว่าเกิดเหตุไฟไหม้ ตนเองลงมา แสงเพลิงกำลังลุกลามจึงโทรแจ้งหน่วยบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ เพื่อเข้ามาทำการควบคุมเพลิง แต่ด้วยไฟลุกลามอย่างหนัก จึงไม่สามารถควบคุมไว้ได้ ทำให้เกิดความเสียหายกับตัวโรงงานและบ้านพักทั้งหมด

นายเริญ อายุ 40 ปี สัญชาติกัมพูชา คนงานในโรงงานจุดเกิดเหตุ เล่าว่าตนเองปฏิบัติงานอยู่ด้านหน้าของโกดัง ไม่ได้เห็น ตอนเกิดเหตุไฟไหม้ รู้ตอนที่มีคนวิ่งมาบอกว่ามีกลุ่มควันอยู่ด้านหลัง 2 โกดัง จึงจะวิ่งไปดูและพบว่าแสงเพลิงได้โหมอย่างหนัก จึงวิ่งออกมาด้านนอกแล้วแจ้งเจ้าของโรงงานดังกล่าว

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่ที่เกิดเหตุ พร้อมกับประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไม้ สอบสวนพยานอย่างละเอียดอีกครั้ง