กระทรวงสาธารณสุข จ่อชง ศบค. ยกเลิกตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิในสนามบิน-สถานที่อื่น ๆ ชี้ไม่มีหลักฐานด้านประสิทธิผลในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
วันที่ 13 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิระดับ 11 ในฐานะประธานคณะกรรมการประมวลสถานการณ์โรคโควิด-19 (MIU) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า หนึ่งในมาตรการคัดกรองโรคโควิด-19 ช่วงที่ผ่านมาคือ การวัดอุณหภูมิก่อนเข้าประเทศและตามสถานที่ต่าง ๆ เนื่องจากช่วงที่โรคโควิด-19 ยังมีความรุนแรง ผู้ป่วยมักมีไข้เป็นอาการนำ และเป็นการสร้างความตระหนัก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันทั้งสถานการณ์และเชื้อโควิด-19 มีความรุนแรงลดลงมาก อีกทั้งประชาชนได้รับวัคซีนเป็นจำนวนมาก ผู้ติดเชื้อมากกว่าครึ่งไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประโยชน์และประสิทธิผลของเครื่องวัดอุณหภูมิ นอกจากนี้ ผู้ป่วยสามารถปิดบังอาการไข้ได้ด้วยการรับประทานยาลดไข้ ใส่เสื้อผ้าหนาปกคลุมร่างกาย การล้างหน้า และการใช้เครื่องสำอาง เป็นต้น คณะกรรมการ MIU จึงดำเนินการทบทวนมาตรการคัดกรองอุณหภูมิ หลังผ่านพ้นการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
นพ.รุ่งเรืองกล่าวด้วยว่า จากการศึกษาพบว่าเครื่องวัดอุณหภูมิมีประสิทธิผลในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19 ต่ำ โดยมีค่าความไวต่ำตั้งแต่ร้อยละ 0-39 ทำให้ค่าพยากรณ์ผลทั้งบวกและลบต่ำมาก ให้ผลบวกและลบปลอม ทั้งการใช้ที่สนามบิน หรือสถานที่ต่างๆ ยังไม่พบหลักฐานทางวิชาการที่สนับสนุนถึงประโยชน์ในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19
ดังนั้น จึงมีข้อเสนอเชิงนโยบายและมาตรการว่า ในปัจจุบันและหลังผ่านพ้นการแพร่ระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 อาจไม่จำเป็นต้องให้สนามบิน ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ และสถานประกอบการต่างๆ คัดกรองผู้ติดเชื้อด้วยการวัดอุณหภูมิ
“ในต่างประเทศก็มีคำแนะนำคล้ายกัน เช่น อังกฤษออกคำแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องวัดอุณหภูมิเพื่อคัดกรองผู้ป่วยโควิด-19, สิงคโปร์ยกเลิกการคัดกรองอุณหภูมิในที่สาธารณะตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564, สหรัฐอเมริกาและแคนาดาปัจจุบันไม่มีคำแนะนำเรื่องการวัดอุณหภูมิสำหรับการคัดกรอง เป็นต้น” นพ.รุ่งเรืองกล่าว
นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า สำหรับเครื่องวัดอุณหภูมิแบบสแกนร่างกายในสนามบินนั้น ไม่มีหลักฐานด้านประสิทธิผลในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่นกัน และยังต้องพัฒนานวัตกรรมที่มีประสิทธิผลในการคัดกรองโรคติดเชื้อที่ดีกว่านี้ในอนาคตสำหรับในกลุ่มนักเดินทาง
นอกจากนี้ ยังพบว่ามาตรการคัดกรองอุณหภูมิที่สนามบินอาจทำให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัยมากเกินไป จนส่งผลให้ละเลยมาตรการอื่นๆ (False security) และทำให้เกิดความไม่สะดวก
ทั้งนี้ ข้อเสนอดังกล่าวจะนำเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) เพื่อพิจารณาต่อไป แต่ยังคงเน้นย้ำมาตรการเรื่องวัคซีนเข็มกระตุ้น (บูสเตอร์โดส) การสวมหน้ากากอนามัย/ผ้า ในพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยงและผู้ที่มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก และให้มีการธำรงรักษาพฤติกรรมสุขภาพที่ดี เช่น การล้างมือ การเว้นระยะห่าง ลดความแออัด รวมถึงการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี