ชิ้นส่วนสเปซเอ็กซ์ ตกกลางทุ่งออสเตรเลีย ตอกย้ำปัญหาขยะอวกาศ

สเปกเอ็กซ์ SpaceX ออสเตรเลีย
ชิ้นส่วนของ SpaceX Crew-1 ตกทุ่งในเมืองดาลเจตตี้ ออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 (Brad Tucker/via REUTERS)

ชิ้นส่วนจรวดสเปซเอ็กซ์ตกลงในทุ่งหญ้าที่ออสเตรเลีย นักวิชาการชี้หาได้ยากมาก เชื่อในหลายปีข้างหน้า ขยะอวกาศจะร่วงสู่พื้นโลกจนเป็นเรื่องปกติ

วันที่ 4 สิงหาคม 2565 บีบีซี รายงานว่าพบชิ้นส่วนขยะอวกาศจากยานอวกาศสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ของอีลอน มัสก์ ตกลงบนทุ่งหญ้าเเห่งหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย

มิก ไมเนอร์ เกษตรกรในเมืองนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย ได้เห็นวัตถุขนาดใหญ่สีดำปักอยู่บนเขตพื้นดินที่ห่างไกลในฟาร์มของเขา ซึ่งเริ่มเเรกเข้าใจว่าเป็นต้นไม้ตาย แต่เมื่อได้ลองเข้าไปดูใกล้ ๆ พร้อมด้วยการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ เขาก็ได้รู้ว่ามันคือสิ่งที่ร่วงหล่นลงมาจากอวกาศ

ขยะอวกาศ สเปซเอ็กซ์ ออสเตรเลีย
ชิ้นส่วนของยานอวกาศ สเปซเอ็กซ์ ตกลงกลางทุ่งในออสเตรเลีย (Brad Tucker/via REUTERS)

สำนักงานอวกาศออสเตรเลีย (ASA) ระบุภายหลังว่า สิ่งนี้เป็นชิ้นส่วนจากเเคปซูลของยานอวกาศสเปซเอ็กซ์ โดยผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า นี่เป็นการค้นพบที่ ‘หาได้ยาก’ และ ‘น่าตื่นเต้น’ แต่เหตุการณ์เช่นนี้อาจกำลังจะกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทั้งนี้ วัตถุดังกล่าวได้รับการพิสูจน์ว่าตกลงสู่พื้นที่ทุ่งกว้างของออสเตรเลียเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งหลายสัปดาห์ถัดมาจึงถูกค้นพบ

ชิ้นส่วนอีกสองชิ้นได้ถูกค้นพบในเวลาต่อมา และสำนักงานอวกาศออสเตรเลียประกาศขอความร่วมมือให้ใครก็ตามที่พบวัตถุอวกาศเพิ่มเติม ให้ติดต่อสายด่วนเรื่องเศษซากขยะอวกาศ ที่ SpaceX ตั้งขึ้น

Advertisment

ดร.แบรด ทักเกอร์ นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยเเห่งชาติออสเตรเลีย ถูกเรียกให้มาทำหน้าที่ตรวจสอบวัตถุดังกล่าว และเขากล่าวในวิดีโอที่ถูกเผยเเพร่ออนไลน์ว่า “มันน่าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นสิ่งนี้อย่างใกล้ชิด ฉันไม่เคยเห็นเศษขยะอวกาศตกแบบนี้มาก่อน”

สเปซเอ็กซ์ ออสเตรเลีย
Brad Tucker/via REUTERS

นักวิชาการชี้เป็นเรื่องพบได้ยาก

ดอน พอลลาคโค ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอร์ริก (Warwick) ในอังกฤษ เห็นว่าการร่วงลงของขยะอวกาศบนพื้นดินนั้นเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก แม้จะมีวัตถุจากอวกาศร่วงลงสู่พื้นโลกในทุก ๆ วัน แต่โดยส่วนใหญ่มันมักจะร่วงลงในมหาสมุทร

Advertisment

ที่ผ่านมา มีกรณีเดียวที่มีผู้ถูกขยะอวกาศร่วงใส่ คือกรณีของล็อตตี้ วิลเลียม ที่รัฐโอคลาโฮมา สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2540 ซึ่งเธอถูกชิ้นส่วนอวกาศตกใส่ไหล่ของเธอ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ

ส่วนเหตุการณ์อื่น ๆ เช่น ชิ้นส่วนจรวดของจีนตกใส่อาคาร เกิดความเสียหายต่ออาคารในโกตดิวัวร์ หรือไอวอรีโคสต์ เมื่อปี 2563

อย่างไรก็ตาม การค้นพบขยะอวกาศบนบกนั้นอาจกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจำนวนจรวดที่ถูกส่งขึ้นไปยังอวกาศมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ศาสตราจารย์พอลลาคโค กล่าวว่า พระอาทิตย์นั้นกำลังเคลื่อนเข้าสู่วงวัฏจักรที่รุนเเรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีขยะอวกาศจำนวนมากร่วงลงสู่พื้นโลกอีก

เตือนอนาคตอาจมีผู้เสียชีวิตจากขยะอวกาศหล่นทับ

เเต่บางทีสิ่งที่น่ากังวลกว่านั้น คือการวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย ของเเคนาดา ซึ่งถูกเผยเเพร่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีโอกาสกว่า 10% ในทศวรรษถัดไปที่คนอย่างน้อย 1 คนจะเสียชีวิตจากการที่ขยะอวกาศหล่นทับ

แต่ศาสตราจารย์พอลลาคโคก็ยังกล่าวว่า โอกาสที่จะมีบุคคลได้รับบาดเจ็บนั้น “เกือบที่จะเป็นศูนย์” พร้อมเสริมว่า “ผมไม่คิดว่าผู้คนจะต้องหวาดกลัว เพราะความน่าจะเป็นที่จะถูกขยะอวกาศหล่นใส่นั้นมีน้อยมากอย่างไม่น่าเชื่อ”

ขณะที่สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ยังไม่ได้ออกมาตอบข้อการเรียกร้องขอความคิดเห็นจากบีบีซีแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ก็ได้มีเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน โดยบีบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน และเจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐระบุว่า เศษชิ้นส่วนจรวดลองมาร์ช 5 ของจีนก็ได้ตกลงสู่พื้นโลกบริเวณเหนือมหาสมุทรอินเดียเเละมหาสมุทรเเปซิฟิก

โดยหน่วยงานอวกาศของทางการจีนระบุว่า ชิ้นส่วนที่หลงเหลืออยู่โดยส่วนใหญ่ของจรวด ลองมาร์ช 5 ได้ถูกเผาในชั้นบรรยากาศ และพบว่าตำเเหน่งที่ซากจรวดได้ตกลงสู่พื้นโลกนั้นคือบริเวณทะเลซูลูในมหาสมุทรเเปซิฟิก

ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศกล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่ซากจรวดจะตกลงสู่บริเวณพื้นที่ที่มีประชากรหนาเเน่นนั้นต่ำมาก