ไม่ประมาท…ยังไม่รอด โอมิครอน BA.4-BA.5

โอมิครอน
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : กฤษณา ไพฑูรย์

ได้รับประสบการณ์ตรงติดโควิด-19 เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2565 หลังจากรับวัคซีนไป 4 เข็ม และรอดการติดเชื้อไวรัสมาตลอด 3 ปี

แม้ใช้บริการรถสาธารณะมาตลอดชีวิต ทั้งขึ้นรถเมล์ รถแอร์ รถไฟฟ้า แต่ถือว่าดูแลตัวเองดีในระดับหนึ่ง เวลาขึ้น TAXI ก่อนขึ้นจะถามคนขับรถว่า ขอเปิดหน้าต่างได้หรือไม่ หากคันใดไม่ให้เปิดก็จะไม่ขึ้น

ทุกวันจะใส่แมสก์ 3 ชั้น กลับถึงบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้านอกบ้าน ซักทันที อาบน้ำ สระผมทุกวัน ใช้แอลกอฮอล์ล้างมือถี่มาก ไม่เปิดปากกินข้าวกับคนนอกบ้าน เลือกกินข้าวเฉพาะร้านที่เปิดโล่ง ไม่ติดแอร์ ฯลฯ หลีกเลี่ยงการนัดสัมภาษณ์แบบเผชิญหน้า ใช้การสัมภาษณ์ผ่านทาง Zoom ทางโทรศัพท์ มาตลอด…ตั้งแต่โควิดระบาดใช้ชีวิตอย่างเข้มงวดตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

แต่ล่าสุดไม่สามารถรอด “โอมิครอน” สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ที่เป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่น่ากลัวทีเดียว เพราะอาการมาครบหมด ทั้งไข้ขึ้น 38 องศา คัดจมูก น้ำมูกไหล ระคายคอ ไอแต่ละครั้งเจ็บหน้าอก ปวดเมื่อย อาเจียน

วันแรกที่ขึ้น 2 ขีดยังงงว่า ติดเชื้อได้อย่างไร แต่เมื่ออ่านข้อมูลทางการแพทย์ระบุชัดว่า หากมีคนตะโกนพูด ไอ หรือจาม ในรัศมีที่เราอยู่ใกล้ อาจทำให้สารคัดหลั่งที่ปนเปื้อนเชื้อเกิดฝอยละอองที่มีอนุภาคเล็กกว่า 5 ไมครอน ทำให้เชื้อล่องลอยอยู่ในอากาศได้นานในที่อับ และกระจายได้ไกลกว่า 2 เมตร

ระยะเวลาของเชื้อโควิด-19 ที่อยู่ตามสถานที่หรือสิ่งของต่าง ๆ สถานที่ที่มีอุณหภูมิต่ำมาก เช่น 0 องศา เชื้ออยู่ได้นาน 30 วัน วัสดุที่เป็นพลาสติก เชื้ออยู่ได้นาน 3-4 วัน แก้วน้ำ เชื้ออยู่ได้นาน 2 วัน สถานที่ปิด ระบายอากาศไม่ดี เชื้ออาจล่องลอยในอากาศได้นาน 3 ชั่วโมง

ทุกสถานที่ล้วนมีความเสี่ยง ! รอบนี้เชื้อไวรัสโควิดอยู่รอบตัวเรา อากาศในห้องแอร์ที่วนเวียนไม่ถ่ายเท ทั้งออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ฯลฯ

หลายสถานที่ผู้คนเริ่มไม่ใส่แมสก์กันมากขึ้น หลายคนอาจมีเชื้อโควิดอยู่ในร่างกาย แต่ด้วยความแข็งแรงทำให้ไม่แสดงอาการ แต่คนที่ร่างกายอ่อนแอจะถูกจู่โจมทันที

ล่าสุด ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา หรือ CDC ระบุชัดถึงการกลายพันธุ์ของโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4.6 ที่กำลังระบาดอย่างหนักในสหรัฐเวลานี้ ซึ่งมีการระบาดง่ายและรวดเร็วกว่าสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 อีก

ดังนั้นความเสี่ยงที่จะกลับมาติดเชื้อไวรัสโควิดซ้ำยังมีสูงเช่นกัน ข้อมูลในต่างประเทศหลายสำนักยืนยันตรงกัน ภายใน 20-30 วัน มีผู้ป่วยหลายคนกลับมาติดเชื้อโควิดซ้ำ

เพราะโควิดกลายพันธุ์ไปทุกวัน ขณะที่พัฒนาการของวัคซีนยังตามไม่ทัน จึงยังเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องระมัดระวังอย่าให้การ์ดตก !

มีบางคนสะท้อนว่า การระบาดของโควิดจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติได้ดีกว่าการฉีดวัคซีน แต่อย่าลืมว่า ร่างกายของบางคนที่ถูกเชื้อไวรัสโจมตี อาจจะไม่รอดชีวิตไปสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ดังนั้นการไม่ติดเชื้อคงจะดีกว่า

เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเดินหน้าภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่ต้องเดินควบคู่กันไปอย่างเคร่งครัด !