“ประเทศไทย” ยุคนี้ ต้องขยายธุรกิจไปนอกประเทศ

การค้า ตปท.
คอลัมน์ : Pawoot.com
ผู้เขียน : ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ

ผมมีโอกาสได้ไปมาเลเซียในรอบสองปีกว่า นับตั้งแต่มีโควิดเพื่อขยายธุรกิจไปที่นั่น โดยครั้งนี้ผมนำธุรกิจเกือบทั้งหมดที่มี ทั้งธุรกิจเซ็นเอกสารออนไลน์ แชมพูบำรุงผมลดผมร่วง บริษัททำเกี่ยวกับเพย์เมนต์ ฯลฯ เพื่อหาพาร์ตเนอร์ ผมมีเพื่อนอยู่ที่มาเลเซีย และได้พูดคุยกันทำให้เห็นโอกาสที่มีอยู่อีกมาก จึงอยากบอกว่าคนที่ทำธุรกิจอยู่แล้วและอยากขยายธุรกิจออกไปนอกประเทศ ทุกคนชอบคิดว่าอยากจะทำ แต่ไม่คิดว่าจะทำอย่างไร

ถ้าอยากแล้วต้องทำเลย ! มีเป้าหมายชัดเจน ด้วยความที่ผมมีธุรกิจหลายอย่าง และมีเป้าหมายชัดเจนว่าจะไม่อยู่แค่ในเมืองไทย ผมตั้งเป้าว่าปีนี้จะไปมาเลเซียก่อนไปอินโดนีเซีย ซึ่งผมมีคนรู้จักอยู่ และเคยมาลงทุนบ้างแล้ว การมาต่างประเทศหลาย ๆ คนไม่รู้จะไปเจอใครหรือไปไหนดี ไม่มีไมล์สโตน ไม่มีเป้าว่าจะขยายไปเมื่อไหร่

ผมอยากทำ ผมก็ลงตารางไว้เลยว่าอยากขยายธุรกิจไปมาเลเซีย จากนั้นติดต่อเพื่อนชาวมาเลย์ว่าจะไป และติดต่อนัดหมายกับท่านทูตพาณิชย์ไว้ล่วงหน้า ทูตพาณิชย์คือเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงพาณิชย์ของไทยที่ไปประจำการอยู่ทั่วโลก ฉะนั้น เราอยากขยายธุรกิจไปที่ประเทศไหน เราสามารถประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้เลยติดต่อภาครัฐให้ช่วยเหลือ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือตอนนี้ประเทศไทยมีทูตพาณิชย์อยู่ทั่วโลก คิดอะไรไม่ออกติดต่อกระทรวงพาณิชย์ หรือกรมการค้าระหว่างประเทศ เขาจะเชื่อมโยงให้เรารู้จักกับเจ้าหน้าที่หรือทูตพาณิชย์ของประเทศนั้น

อย่างผมเองได้ไปพบกับท่านทูตพาณิชย์ประเทศไทยประจำมาเลเซียที่กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งผมเตรียมหัวข้อว่าจะขยายธุรกิจใดบ้าง ตรงนี้นี่แหละครับที่จะเป็นการใช้หน่วยงานภาครัฐช่วยเราในการทำงาน

การทำธุรกิจในวันนี้ หากมัวแต่คิดจะทำธุรกิจในประเทศไทย บอกเลยว่ามันเล็กมากและจะพบกับปัญหาที่ผมบอกมาตลอดเลย คือโดนต่างชาติรุม อย่างตอนนี้ก็มีจีนเข้ามารุมเราแล้ว มาเลเซียเองก็เจอปัญหานี้เหมือนกับเรา

ครั้งนี้ผมได้คุยว่าอยากจะเชื่อมโยงนักธุรกิจมาเลเซียกับไทยเข้าด้วยกัน ซึ่งจริง ๆ ผมได้ทำหลักสูตรลักษณะนี้กับมหาวิทยาลัยศรีปทุมอยู่แล้ว นอกจากนี้ผมอยากทำหลักสูตรหนึ่งที่เชื่อมโยงนักธุรกิจไทยเข้าใจธุรกิจมาเลเซียและนักธุรกิจมาเลเซียเข้าใจธุรกิจไทยเข้าด้วยกัน

นักธุรกิจไทยต้องพยายามคิดออกนอกประเทศ เพราะทุกวันนี้ในประเทศโดนกัดกร่อน โดนคนจีนบุก โดนออนไลน์บุกเข้ามา ตลาดเล็กลงไปเรื่อย ๆ แต่หากคุณออกนอกประเทศผมบอกได้เลยว่าโอกาสมีมากมหาศาล อยากให้คนไทยก้าวออกนอกคอมฟอร์ตโซน หรือจุดที่คุ้นเคย บางคนบอกว่าภาษาอังกฤษไม่เก่ง ผมว่าไม่จำเป็นต้องพูดสำเนียงอะไรมาก สำเนียงไทยก็ใช้ได้

ผมคิดว่าจุดสำคัญคือก้าวต่อไปของธุรกิจจะเป็น regional games หรือการค้าระหว่างภูมิภาค หรือเป็น global games ใครออกมาก่อนได้เปรียบ ลองคิดดูครับว่าเราขายของในเมืองไทยดีมาก แต่ทำไมเราไม่คิดออกมานอกประเทศ ประเทศที่ไปง่าย ๆ เลยคือ CLMV เพราะกลุ่มประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่รับสื่อจากประเทศไทย 50% ของสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตของเขาเป็นของไทย

เพื่อนมาเลย์ของผมก็บอกอีกว่าประเทศไทยเราแกร่งมากในเรื่องสินค้า FMCG หรือสินค้าอุปโภคบริโภค คนมาเลย์เองยังต้องการสินค้าของไทย เขายังต้องการเอาสินค้าไทยเข้ามาในมาเลเซีย

นี่คือโอกาสของคนไทย สินค้าไทยมีความต้องการสูงมาก

ผมอยากบอกว่า ทำไมเรามัวแต่ทำสินค้าขายในประเทศ ทำไมเรารอให้คนอื่นเอาสินค้าเราออกไปขายนอกประเทศ ทำไมไม่ลองออกไปดูเอง ไปดูก่อนเพื่อให้เห็นโอกาส ไปให้เกิดแรงบันดาลใจเพื่อให้ตัวเองออกไปต่างประเทศให้ได้

หากมีใครจัดทริปไปดูงานต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV ผมแนะนำว่าให้ไป ถ้ามัวอยู่แต่ในประเทศไทย เราก็จะเห็นแต่ในประเทศไทย ขายแบบเดิม ๆ วิธีการแบบเดิม ๆ แต่หากคุณไปเห็นของต่างประเทศ ได้ไปเจอลูกค้า วิธีการขาย ได้ไปเห็นพฤติกรรมของคนแต่ละประเทศ ผมบอกได้เลยว่าถ้าคุณเป็นพ่อค้าหรือเจ้าของกิจการ ตาจะเป็นประกายมาก เพราะมีโอกาสอีกมากมายมหาศาล

กุญแจสำคัญของการออกไปขายยังต่างประเทศ คือ ต้องมีพาร์ตเนอร์ที่ดี ต้องตั้งใจตั้งเป้า ผมตั้งใจที่จะออกไปต่างประเทศให้ได้ หากล้มเลิกโอกาสในการขยายธุรกิจที่ต่างประเทศหลาย ๆ อย่างจะหายไปทันที ประเทศไทยยุคนี้ต้องออกนอกประเทศ ตั้งเป้าให้มั่น ติดต่อหน่วยงานรัฐ เช่น ทูตพาณิชย์ให้ช่วยเหลือ ลองติดต่อหน่วยงานด้านการลงทุนของแต่ละประเทศเพื่อดูการสนับสนุนของเขา ฯลฯ

วันนี้คุณต้องรู้ว่าตลาดต่างประเทศใหญ่กว่าเมืองไทยมาก ตลาดใหม่มาก เราควรเข้าไปศึกษาดูว่าเราจะขยายธุรกิจของเราออกไปนอกประเทศได้ยังไง หากมีโอกาสลองบินไปประเทศที่ต้องการขยายธุรกิจด้วยตัวเองไปดูด้วยตาตัวเอง ผมท้าทายทุกท่านครับ