รื้อสัมปทานปิโตรฯ นโยบายต้องชัดเจน

บทบรรณาธิการ

แม้รัฐบาลจะใช้หลายแนวทางแก้ปัญหาแหล่งสัมปทานปิโตรเลียมในเขตปฏิรูปที่ดิน ล่าสุด 26 ธ.ค. 2560 นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ได้ออกกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาต ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน แต่เนื่องจากยังมีปมกฎหมายอีกหลายเรื่อง ทำให้เอกชนที่สนใจเข้าสำรวจและผลิตปิโตรฯ ไม่เชื่อมั่น

ยิ่งปลายปีที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้าจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาบุกรุกป่าไม้กับ บจ.อีโค่ โอเรียนท์ รีซอสเซส (ประเทศไทย) ที่ได้รับสัมปทานปิโตรฯ แหล่งวิเชียรบุรี ในที่ดิน ส.ป.ก. จ.เพชรบูรณ์ ที่อยู่ทับซ้อนพื้นที่ป่าไม้ ยิ่งบั่นทอนความมั่นใจนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ

และแม้นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน จะสั่งการให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเร่งหาทางออก ด้วยการสำรวจรวบรวมแหล่งสัมปทานปิโตรฯที่อยู่ในความรับผิดชอบดูแลของหลายหน่วยงานให้รัฐบาลแก้ไข ลดปัญหาความยุ่งยากซ้ำซ้อน แต่อาจต้องเสนอหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดล็อกข้อกฎหมายอีกรอบ ทำให้การเปิดประมูลสัมปทานปิโตรฯ บนบกล่าช้าออกไปจากที่กำหนด

ขณะเดียวกัน กฎกระทรวงใหม่ แม้จะมีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการพิจารณาให้ความยินยอมหรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน แต่เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับแนวทางในการเยียวยา หรือจ่ายค่าชดเชยให้กับเกษตรกรที่เสียโอกาสทำกินในที่ดิน ส.ป.ก.ชัดเจน จึงมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดปัญหาตามมา

โดยเฉพาะค่าชดเชยเยียวยาซึ่งยังไม่มีแนวทางปฏิบัติว่าจะกำหนดอย่างไร และอัตราที่เหมาะสมเป็นธรรมควรอยู่ระดับไหน จึงคุ้มค่ากับการสูญเสียโอกาสและเกษตรกรยอมรับได้ ขณะที่ภาคเอกชนที่ต้องจ่ายค่าชดเชยก็ไม่แบกภาระมากเกินไป

ที่รัฐบาลต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนคือ นอกจากจะแก้ปัญหาความล่าช้าในการสำรวจและผลิตปิโตรฯในที่ดิน ส.ป.ก.ที่ยังติดขัด และให้สามารถเดินหน้าเปิดประมูลสัมปทานแหล่งปิโตรฯแห่งใหม่ เพื่อลดการสูญเสียโอกาสในการนำปิโตรฯจากแหล่งดังกล่าวมาใช้ และลดการเสียโอกาสที่รัฐจะมีรายได้จากค่าภาคหลวงแล้ว อาจต้องขยายผลถึงการให้สัมปทานสำรวจและผลิตเหมืองแร่ กับการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.ในกรณีอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาในลักษณะเดียวกันควบคู่กันไป

ด้วยการกำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติทุกขั้นตอนกระบวนการให้โปร่งใสชัดเจน ยึดประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร นักลงทุน เจ้าหน้าที่รัฐเชื่อมั่นและปฏิบัติตามกฎกติกา หากทำได้นอกจากข้อติดขัดจะหมดไปแล้ว สารพัดปัญหาก็จะไม่มีตามมาภายหลัง