ร้านเนื้อย่างญี่ปุ่นไอเดียเจ๋ง จัดเมนูพิเศษจับ “ลูกค้าฟิตเนส”

เนื้อย่าง
คอลัมน์ : Market Move

สำหรับผู้ที่ต้องการปั้นหุ่นล่ำ หรือพยายามลด-คุมน้ำหนักนั้น อาหารอย่างเนื้อย่าง หรือยากินิคุ นับเป็นเมนูต้องห้ามที่ไม่สามารถทานได้เลย เนื่องจากแม้เนื้อจะเป็นแหล่งโปรตีน แต่เนื้อที่ร้านเนื้อย่างนำมาใช้นั้นไม่ใช่เนื้อแดง แต่มักเป็นเนื้อติดมันเพื่อกลิ่นรส-สัมผัสที่ดี รวมถึงยังเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย-ข้าวผัดที่มีทั้งคาร์โบไฮเดรตและไขมัน ซึ่งเป็นของต้องห้ามสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า ล่าสุดมีเชนร้านเนื้อย่างในญี่ปุ่นรายหนึ่งไม่เพียงประสบความสำเร็จในการดึงคนเหล่านี้มาเป็นลูกค้า แต่ยังปั้นให้เป็นลูกค้าขาประจำ รวมถึงลบภาพจำว่า เนื้อย่างไม่เป็นมิตรกับสุขภาพได้อีกด้วย

โดยร้านดังกล่าวคือ “ยากินิคุ ไลก์” (Yakiniku Like) เชนร้านเนื้อย่างสัญชาติญี่ปุ่น เจ้าของแคมเปญ “ยากินิคุ ฟิตเนส” (Yakiniku Fitness) ที่เป็นโมเดลซับสคริปชั่นหรือการเป็นสมาชิกรายเดือน ซึ่งออกแบบมาตอบโจทย์กลุ่มผู้ออกกำลัง-คุมน้ำหนักโดยเฉพาะ โดยสมาชิกจะสามารถเข้ามาทานอาหารฟรีวันละ 1 ครั้ง มีให้เลือก 3 เซตเมนู คือ เซตเมนูเนื้อลีนหรือเนื้อไขมันต่ำสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมัน มีไฮไลต์เป็น เนื้ออกไก่ไม่ติดหนังคลุกน้ำมันเอ็มซีที (medium chain triglycerides) ที่เชื่อว่าช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน

รวมถึงยังมีเซตเมนูเน้นโปรตีนสำหรับผู้ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ และเซตเมนูแบบโลว์คาร์บหรือเมนูลดแป้ง

“โมริฮิสะ อาริมุระ” ประธานของยากินิคุ ไลก์ และผู้อยู่เบื้องหลังแคมเปญ “ยากินิคุ ฟิตเนส” รวมถึงยังเป็นขาประจำของยิมออกกำลังกาย อธิบายว่า แนวคิดนี้เริ่มมาจากความขัดแย้งของสเต๊ก โดยเฉพาะเนื้อส่วนไขมันต่ำถูกมองว่าเป็นมิตรกับการควบคุมอาหารหรือสร้างกล้ามเนื้อ แต่พอเป็นเนื้อย่างหรือยากินิคุ กลับถูกมองว่าไม่เป็นมิตรกับสุขภาพเสียอย่างนั้น ทั้งที่ทั้ง 2 เมนูต่างเป็นเนื้อเหมือนกัน จึงพยายามหาทางพลิกภาพลักษณ์ให้เนื้อย่างมีความเป็นมิตรกับสุขภาพมากขึ้น เพื่อดึงดูดผู้บริโภคกลุ่มนี้ซึ่งเป็นช่องว่างของตลาดร้านเนื้อย่าง

ความคิดนี้นำไปสู่ไวรัลย่อม ๆ ในโซเชียลของญี่ปุ่นเมื่อเดือน ก.ค. หลังโมริฮิสะโพสต์ทวีตถามผู้บริโภคว่า สนใจโปรแกรมสมาชิกที่สามารถกินเนื้อสเต๊กฮารามิ (เนื้อส่วนท้องนุ่มและไขมันต่ำกว่าส่วนซี่โครง นิยมในหมู่คนรักสุขภาพ) ขนาด 200 กรัม ได้ทุกวันกันหรือเปล่า ซึ่งมีผู้กดไลก์ไปกว่า 3 หมื่นครั้ง และรีทวีตอีก 5 พันครั้ง นำไปสู่การเปิดขายแพ็กเกจยากินิคุ ฟิตเนส ในเดือน ส.ค. ซึ่ง 100 สิทธิแรกราคา 10,780 เยนต่อเดือน (ประมาณ 2.7 พันบาท) ขายหมดในเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ โมเดลนี้ยังได้รับความนิยมสูงผิดคาด โดยมีลูกค้ามาใช้สิทธิล้นหลามเฉลี่ยมากกว่า 20 วันต่อเดือน จนบริษัทต้องรีบปรับขึ้นราคาเป็น 14,080 เยนต่อเดือน (ประมาณ 3.58 พันบาท) เพื่อไม่ให้ขาดทุน โดยปัจจุบันฐานลูกค้าของโมเดลนี้ 60% เป็นผู้ชายอายุวัย 20-40 ปี

“ด้วยโมเดลและเมนูใหม่นี้ช่วยให้เราสามารถจับกลุ่มลูกค้าที่ปกติแล้วไม่เข้ามาทานร้านยากินิคุได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่เน้นเล่นเวตและควบคุมอาหารจะชอบเป็นพิเศษ เพราะสามารถมาเอร็ดอร่อยกับเมนูเนื้อได้แบบไร้กังวล เช่นเดียวกับกลุ่มลดแป้ง สะท้อนจากสัดส่วนยอดขายที่เซตเมนูลดแป้งมีสัดส่วนถึง 60% ขณะที่อีก 2 เซตมีสัดส่วน 20% เท่ากัน”

ADVERTISMENT

ประธานของยากินิคุ ไลก์ เสริมว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้โมเดลสมาชิกรายเดือนและเมนูสำหรับผู้ชื่นชอบออกกำลังนี้ประสบความสำเร็จ คือ ลักษณะเฉพาะของร้านที่ออกแบบให้ลูกค้าแต่ละรายมีเตาย่างส่วนตัว แตกต่างจากเชนอื่น ๆ ที่ติดตั้งเตาแบบให้ย่างร่วมกันทั้งโต๊ะ รวมถึงการสั่งอาหารและจ่ายเงินแบบผ่านหน้าจอแทนพนักงาน ซึ่งวิธีที่แตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปนี้กลับตอบโจทย์เหล่าผู้ชื่นชอบออกกำลังที่ไม่ชอบให้ถูกจำได้ว่าเป็นลูกค้าขาประจำ และมักเว้นระยะเวลาในการเข้าร้านอื่น ๆ ให้มาที่ร้านของบริษัทเป็นประจำได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันยากินิคุ ไลก์ มี 13 สาขาในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่อยู่ในโตเกียว และโอซากา โดยมีแผนขยายสาขา 2 แห่งต่อเดือน รวมถึงเปิดให้สมัครโมเดลรายเดือนได้ทุกวัน จากเดิมที่จะเปิดรับเฉพาะวันแรกของแต่ละเดือนเท่านั้น