คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : ณัฐวุฒิ ประชาชาติ
ฉากการเมืองไทยวันนี้ ไม่ต่างกับซีรีส์เรื่องดัง House of Cards ที่ฉายใน Netflix มี 6 ซีซั่น
ในซีรีส์มีตัวละครสำคัญคือ “ฟรานซิส อันเดอร์วู้ด” หรือ “แฟรงค์ อันเดอร์วู้ด” สวมบทโดย “เควิน สเปซีย์”
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ซีซั่นแรกของซีรีส์ “แฟรงค์” เป็นแค่ “วิปรัฐบาล” ก่อนใช้เล่ห์เหลี่ยม กลเกมการเมือง ค่อย ๆ ไต่เต้าขึ้นสู่อำนาจ ตำแหน่งที่ใหญ่กว่า หอมหวนกว่า ในซีซั่นต่อ ๆ มา
ละครการเมืองไทยวันนี้ ที่มีทั้งฉากดราม่า ฉากดุเดือด ฉากรักหวานซึ้ง กอดกันกลมผ่านหน้าสื่อ จนต้องหยิบรีโมต เปิด Netflix ย้อนกลับไปดูตอนสำคัญของ House of Cards อีกครั้ง
มีอยู่ EP หนึ่ง สามารถหยิบยกมาเปรียบเทียบกับการเมืองไทยเวลานี้ได้อย่างดี
(สปอย) เรื่องมีอยู่ว่า…
แฟรงค์พยายามผลักดันกฎหมายฉบับหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเข้าสู่สภา และผลจากร่างกฎหมายฉบับนี้ทำให้เกิดการประท้วงของครู ลุกลามจนต้องหยุดการเรียน การสอน
แฟรงค์เริ่มจนมุม จะแก้กฎหมายกลับไปตามใจม็อบครู ไปก็เสียฟอร์ม ครั้นจะไม่ทำอะไรเลยก็ถูกประธานาธิบดีกดดัน
แต่แล้วคืนหนึ่ง ขณะที่แฟรงค์อยู่ในบ้านกับภรรยา และตำรวจลับ จู่ ๆ ก็มีก้อนอิฐปาใส่หน้าต่าง ตำรวจนายนั้นวิ่งออกไปดู ทว่า เห็นแต่หลังไว ๆ ของคนที่ปา ก่อนหายลับในความมืด
แฟรงค์ฉวยโอกาสนั้น ป้ายความผิดให้กับแกนนำม็อบ พร้อมกับจัดม็อบชนม็อบให้ภาพออกมาดูรุนแรง ขณะเดียวกัน ก็สร้างวาทกรรมการเมือง ให้ ส.ส.มือไม้ในสภา กล่าวโจมตีแกนนำม็อบผ่านสื่อ ว่าไม่สามารถทำให้ม็อบอยู่ในระเบียบได้
แกนนำม็อบติดประมาท ตายใจ เห็นเป็นเพียงกลเกม แต่คนกลับเริ่มเชื่อจนกระทั่ง แกนนำม็อบต้องมาเจรจา
เรื่องมาขมวดในตอนจบว่า แฟรงค์และแกนนำม็อบ อยู่ในห้องประชุมสองต่อสอง แฟรงค์ค่อย ๆ เดินคุกคาม พร้อมเฉลย ว่า เขาให้ลูกน้องปาอิฐใส่บ้านตัวเอง
ยั่วยุจนกระทั่งฝ่ายตรงข้ามคุมอารมณ์ไม่อยู่ สาวหมัดเข้าที่หน้าของแฟรงค์ 1 ที
แฟรงค์ใช้สถานการณ์นี้ หาว่าคู่กรณีทำร้ายร่างกาย ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ คาห้องทำงานก่อนยื่นเงื่อนไขที่คู่กรณีได้แต่ยืนกำหมัด-ยินยอม
เพราะ “แฟรงค์” จะไม่ฟ้องดำเนินคดี แลกกับคู่กรณีต้องยุติการชุมนุมทั้งหมด
ตัดภาพกลับมาการเมืองไทย มีเรื่องราวระหว่างบรรทัดมากมายในการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล ทั้งเรื่องการชิงเก้าอี้ประธานสภา ระหว่างเพื่อไทย-ก้าวไกล
เรื่องโผคณะรัฐมนตรี ที่ปลิวว่อนในโซเชียลมีเดีย และ “แหล่งข่าว” ผู้ไม่ประสงค์ออกนามที่ให้ข่าวผ่านสื่อ ต่างฝ่าย ต่างปัดป้องไม่ใช่ฝีมือของพวกตัวเอง โยนบาปให้ “มือที่สาม”
กรณีของ “น.อ.ศิธา ทิวารี” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไทยสร้างไทย กับ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เกิดวิวาทะกันผ่านสื่อ กับเรื่อง MOU พลัส หมอชลน่านถึงกับเลือดขึ้นหน้า “ชกได้ชกไปแล้ว”
มีภาพนางแบก สาวกเพื่อไทย ขอให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล สลับกับภาพที่หมอชลน่านกับพิธา โชว์หวานผ่านสื่อ กอดกันกลม
วาทกรรม จักรวรรดินิยมอเมริกา จากนิทานวันละเรื่อง อาจทำให้ก้าวไกลตกในที่นั่งลำบาก
การเมืองไทย ก็ไม่ต่างจาก ซีรีส์ House of Cards บังเอิญคนที่เป็นประธานาธิบดีในซีซั่นสุดท้าย คนที่เป็น “ผู้ชนะ” กลับไม่ใช่ “แฟรงค์” แต่เป็น…
