ลดทอน ความล้นเกิน

ink
แพทองธาร ชินวัตร
บทบรรณาธิการ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้การจัดคณะรัฐมนตรี มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีอย่างเข้มข้น ทำให้กระบวนการตั้ง ครม.ชุดนี้ ต้องใช้เวลามากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี น่าเสียดายที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ใช้ความเข้มข้นหรือความระมัดระวังตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเมื่อครั้งปรับปรุงคณะรัฐมนตรี ส่งผลให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งอย่างน่าเสียดาย ก่อผลกระทบต่อการบริหารประเทศที่ต้องชะงักงัน คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ นอกจากต้องไม่มีปัญหาคุณสมบัติ เพื่อหลีกเลี่ยงจากกับดักทางกฎหมายจากยุครัฐประหารที่เป็นปฏิปักษ์กับระบบเลือกตั้งแล้ว ยังจะต้องมีศักยภาพสูงในการทำงาน เพราะปัญหาของประเทศ ได้ยกระดับสูงขึ้นไปตามสภาพวิกฤตของการเมือง

ในการประชุมสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.พรรคประชาชน ได้อภิปรายตอนหนึ่งว่า ไม่เห็นด้วยในกระบวนการนิติสงคราม ที่ดำเนินการโดยชนชั้นนำทำลายอำนาจของประชาชน นายกรัฐมนตรีใหม่และ สส.ต้องแก้ไขที่ต้นตอ คือรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้ทันใช้ในการเลือกตั้ง 2570 และกล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2541 นับแต่การจัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญ มีการยุบพรรคแล้ว 111 พรรค ในช่วง 5 ปีมานี้ มี สส.หลายคนได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีกรณีที่นายกรัฐมนตรีถูกถอดถอนจากตำแหน่ง เช่น นายสมัคร สุนทรเวช จากการทำรายการชิมไป บ่นไป, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี, กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน ที่แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ซึ่งเห็นว่าเป็นปัญหาการจัดวางตำแหน่งอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ จะทำอย่างไรไม่ให้ล่วงล้ำเขตอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหาร มีการประหารชีวิตนักการเมืองจากข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง เช่น กรณี น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่, น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.พรรคพลังประชาชน, นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต สส.พรรคภูมิใจไทย มาตรฐานทางจริยธรรมควรเป็นเงื่อนไขกฎกติกา เป็นกระบวนการที่ตรวจสอบกันเอง ไม่ใช่กฎกติกาที่จะให้องค์กรอื่นมาวินิจฉัยโดยใช้มาตรวัดทางกฎหมาย มาตรวัดทางจริยธรรม ที่เป็นมาตรวัดที่ปัจเจกมองเห็นแตกต่างกัน หากจะมีใครจะมาตัดสินจริยธรรมของนักการเมือง จะต้องใช้เสียงของประชาชนมาเป็นผู้ตัดสิน

การบ้านอีกข้อที่ น.ส.แพทองธารไม่ควรละเลย คือการปรับปรุงรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แก้ไขและลด “ความล้นเกิน” ต่าง ๆ โดยให้ตัวแทนประชาชนเข้ามามีบทบาท ซึ่งรัฐบาลนายเศรษฐาได้เริ่มต้นไว้แล้ว ถึงเวลาที่ สส.ทั้งสภา กับวุฒิสภาจะต้องผนึกกำลัง เปลี่ยนการเมืองให้เป็นการเมืองของประชาชน ที่อยู่ภายใต้กติกาที่ประชาชนเห็นชอบ มิใช่กฎกติกาที่ตกค้างจากยุครัฐประหาร