เฟดกำลังจะลดดอกเบี้ย แล้วไทยจะลดกี่โมงคะ ?

หนี้ ดอกเบี้ย ความเครียดทางการเงิน
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : รุ่งนภา พิมมะศรี

ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ “เฟด” กำลังจะลดดอกเบี้ยนโยบายแน่ ๆ แล้วในเดือนกันยายนนี้ ตอนนี้ลุ้นกันแค่ว่าจะลดมากหรือลดน้อย 

ส่วนดอกเบี้ยนโยบายของไทย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ยังไม่ลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด (21 สิงหาคม)

อันที่จริงก็พอคาดการณ์ได้ค่ะว่า กนง.ไทยคงไม่ลดดอกเบี้ยก่อนเฟด แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจไทยตอนนี้อ่อนแอเต็มทน

คนธรรมดาทั่วไปที่มีหนี้บ้านกำลังแบกดอกเบี้ยหลังแอ่น

ภาคธุรกิจที่ต้องกู้เงินลงทุนก็ลำบากขึ้น

การลงทุนใหม่ก็แทบไม่เกิด สภาพัฒน์ประกาศจีดีพีไตรมาส 2 ปี 2567 เมื่อไม่กี่วันก่อน โตแค่ 2.3% (YOY) พร้อมด้วยตัวเลขการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวลง 6.8%

ADVERTISMENT

ใครเขาจะอยากลงทุนในช่วงที่ต้นทุนการเงินสูงและเศรษฐกิจชะลอตัว จริงไหมคะ ?

สภาพเศรษฐกิจบ้านเราควรแล้วจริง ๆ ที่จะต้องลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพื่อต่อลมหายใจของธุรกิจและประชาชนที่กำลังลำบากจากภาระหนี้สิน

ADVERTISMENT

หากไปดูที่ฝั่งสหรัฐ… เฟดบอกย้ำ ๆ ว่า จะพิจารณาตามข้อมูลใหม่ที่ได้รับ และตัวเลของค์ประกอบของเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง-มีพัฒนาการตลอดเวลา 

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด บอกไว้ก่อนหน้านี้สักเดือนกว่า ๆ ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยลงโดยไม่ต้องรอให้เงินเฟ้อลงไปที่เป้าหมาย 2% เพราะคิดว่าความเข้มงวดตอนนี้เพียงพอแล้วที่จะกดเงินเฟ้อลงได้ แต่ต้องใช้เวลาสักระยะกว่าที่นโยบายจะเห็นผล และหากคงดอกเบี้ยไว้สูงนานเกินไปอาจ “ทำร้ายเศรษฐกิจ” ได้

และในการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม เฟดบอกว่า ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและการจ้างงานมากพอ ๆ กันกับการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ 

จีดีพีสหรัฐไตรมาส 2 โต 2.8% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่วัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนล่าสุด (กรกฎาคม) ของสหรัฐอยู่ที่ 2.9% และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 3.2%

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดูดีกว่าเรา แต่เขากำลังจะลดดอกเบี้ยแล้ว

ดิฉันคงไม่ได้คิดเองเออเองคนเดียวว่า แบงก์ชาติไทยควรลดดอกเบี้ยได้ (ตั้งนาน) แล้ว

เพราะแม้แต่ใน กนง.เอง ก็เสียงแตกมาตั้งแต่การประชุมครั้งที่ 1 ของปี 2567 (7 กุมภาพันธ์) แล้ว โดยมีกรรมการ 2 ท่าน (จากทั้งหมด 7) เห็นว่าควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ต่อปี “เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง”

ต่อมาในการประชุมครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 10 เมษายน กรรมการ 2 ท่าน เห็นว่าควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี “เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำลงจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนขึ้น และจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้บ้าง”

จะเห็นว่าเริ่มมีความห่วงใย-เห็นใจประชาชนที่เป็นหนี้เพิ่มเข้ามาในเหตุผล

แต่น่าแปลกใจเหมือนกันค่ะ พอมาถึงการประชุมครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน จำนวนกรรมการจาก 2 คนที่เห็นว่าควรลด ก็เหลือเป็น 1 คน และในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 กรรมการที่เห็นควรให้ลดก็มี 1 คนเหมือนเดิม

ไม่ทราบว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้จำนวนกรรมการที่ห่วงใย-เห็นใจประชาชนลดน้อยลงไป

พอเห็นการเปลี่ยนแปลงไปทิศตรงข้ามแล้วท้อเลยค่ะ เป็นแบบนี้… ดอกเบี้ยไทยจะลดกี่โมงคะ ?

สำนักวิจัยต่าง ๆ คาดการณ์กันว่า กนง.จะลดดอกเบี้ยลงตามเฟดภายในปีนี้ ซึ่งเหลือการประชุม 2 ครั้ง 

แม้ว่าจะช้าแล้ว แต่ก็คงดีกว่านะคะ ถ้า กนง.จะลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ในเดือนตุลาคมนี้ ดีกว่ารอลดในการประชุมครั้งสุดท้าย เดือนธันวาคม