การลงทุนของอีวีจีน

File Photo REUTERS/Kevin Krolicki
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์จีนเรียกประชุมผู้ผลิตรถยนต์หลายบริษัทเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และแนะนำให้ผู้ผลิตรถยนต์จีนใช้วิธีส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในจีนไปประกอบในโรงงานต่างประเทศเท่านั้น ไม่ให้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญในต่างประเทศ 

คำเตือนนี้เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีนหลายบริษัท ทั้งบีวายดี (BYD) เชอรี่ (Chery) จีลี่ (Geely) มีแผนจะสร้างโรงงานผลิตในหลายประเทศ ทั้งสเปน ไทย ฮังการี เม็กซิโก บราซิล และตุรกี เพื่อขยายโอกาสการขายในตลาดต่างประเทศดังกล่าว

จีนยังได้ระบุประเทศที่จีนกังวลเป็นพิเศษในการประชุมดังกล่าว บริษัทรถยนต์ได้รับแจ้งว่าไม่ควรลงทุนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ในอินเดียและตุรกี ทางการจีนกำหนดว่าผู้ผลิตรถยนต์ที่ต้องการลงทุนในตุรกีควรแจ้งกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมอีวีของจีนก่อน รวมถึงต้องแจ้งสถานทูตจีนในตุรกีก่อนด้วย

ที่ผ่านมา บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จีนประกาศการลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในหลายประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศมีข้อกำหนดสัดส่วนบังคับใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ หรือ Local Content Requirements : LCR เพื่อหวังให้เกิดการจ้างงานและเงินหมุนเวียนในประเทศนั้น

ดังนั้น คาดหมายได้ว่าอาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ เมื่อบริษัทรถจีนอาจไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวได้ เพราะรัฐบาลจีนมีแนวทางรักษาองค์ความรู้ไว้ในประเทศ การใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศอาจไม่สอดคล้องกับข้อกำหนด LCR

เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีข่าวออกมาว่ารัฐบาลจีนได้ออกคำเตือนให้ผู้ผลิตรถยนต์จีนตรวจสอบให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีรถไฟฟ้าขั้นสูงจะเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีภายในประเทศ ซึ่งเท่ากับว่าห้ามเปิดเผยองค์ความรู้เกี่ยวกับรถไฟฟ้าให้กับต่างประเทศ

Advertisment

คำแนะนำจากทางการจีนในเรื่องดังกล่าว น่าจะสร้างผลกระทบให้กับประเทศต่าง ๆ ที่ต้องการสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศของตนเอง โดยเริ่มต้นจากการเชิญชวนต่างชาติมาลงทุน รวมถึงประเทศไทยที่พยายามเปิดกว้างเชิญชวนให้ต่างประเทศ รวมถึงจีนมาลงทุนในประเทศ เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและทักษะต่าง ๆ

ซึ่งวิธีการนี้เป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันโดยทั่วไปในประเทศต่าง ๆ แม้แต่จีนเองก็พัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของตนเองมาได้ โดยรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

Advertisment

สำหรับประเทศไทย ภาครัฐจะต้องเข้ามารับรู้ว่าสถานการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร และมองหาหนทางแก้ปัญหาด้วยการเจรจาอย่างมิตรประเทศ ซึ่งหลายฝ่ายเห็นว่า หากจีนยืนยันแนวทางดังกล่าว ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาในการระบุหรือยืนยันว่า รถยนต์ดังกล่าวผลิตจากประเทศที่ไปลงทุน อาจส่งผลให้เกิดปัญหาในการส่งออกได้