คอลัมน์ : Smart SMEs ผู้เขียน : สิทธิกร ดิเรกสุนทร บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
สถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ภาคเหนือกินพื้นที่หลายจังหวัด ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา สร้างความเสียหายมหาศาลต่อระบบเศรษฐกิจไทย คิดเป็นมูลค่านับหมื่นล้าน สร้างผลกระทบต่อสถานประกอบการ ธุรกิจโรงแรม พื้นที่เกษตรกรรม ปศุสัตว์ และฟาร์มวัวนม เกิดความชะงักงัน วงจรธุรกิจถูกตัด เงินทุนหมุนเวียนขาดช่วง ที่หนักสุดคือผู้ประกอบการ SMEs ขาดทุนสำรอง และรอการเยียวยา ทำให้ผมอดเป็นห่วงผู้ประกอบการ SMEs สายกรีนไม่ได้ เนื่องจาก บสย. เพิ่งออกผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ หรือ Credit Guarantee สำหรับ SMEs สายกรีน เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์หนุนธุรกิจ SMEs สู่ความยั่งยืน
ผมได้ลงพื้นที่ในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ เข้าพบและตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการ SMEs ในพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหาย พร้อมรับฟังรายงาน บสย. สำนักงานเขตภาคเหนือ พบว่ามีกิจการลูกค้าที่ บสย. ค้ำประกัน ที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและมีทำเลที่ตั้งริมแม่น้ำ ได้รับความเสียหาย ขณะที่ในจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า มีผู้ประกอบการในธุรกิจฟาร์มโคนม ซึ่งกำลังเร่งพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืน ภายใต้สังคมคาร์บอนต่ำ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ ลดการสูญเสีย ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ หรือ Zero Waste ได้รับผลกระทบด้วย และมีลูกค้าที่ถือหนังสือค้ำประกันสินเชื่อจำนวนมาก ในเขตพื้นที่ภาคเหนือที่กำลังจะครบกำหนดการชำระค่าธรรมเนียม
เป้าหมายการเยียวยารอบนี้ คือการสร้างการรับรู้ให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และผู้ประกอบการกลุ่มกรีน ได้รับทราบมาตรการความช่วยเหลือของรัฐบาล ผ่านกลไกค้ำประกันสินเชื่อ Credit Guarantee โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการค้ำประกันสินเชื่อใหม่ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืน ควบคู่ไปกับมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความกังวล ในยามที่ธุรกิจได้รับผลกระทบ และกำลังจะครบสัญญาการชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน โดย บสย. ได้ออกมาตรการ “พักชำระค่าธรรมเนียม และค่าจัดการค้ำประกัน 6 เดือน” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ภาพรวมทั้งประเทศ (ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2567) ได้รับความช่วยเหลือ พักชำระค่าธรรมเนียมและค่าจัดการค้ำประกันสินเชื่อ ไปแล้วกว่า 1,149 ราย และคิดเป็นค่าธรรมเนียมค้ำประกันกว่า 1,074 ล้านบาท
สำหรับผู้ประกอบการ SMEs สาย Green ที่ประสบความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมส่งผลให้ธุรกิจหยุดชะงัก และติดขัดการเข้าถึงแหล่งทุน แต่ยังต้องการความต่อเนื่องในการลงทุน ปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืน บสย.ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายการยกระดับธุรกิจสู่ความยั่งยืน ด้วยโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Smart Green ภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS 11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” เพื่อผู้ประกอบการ SMEs สายกรีน รองรับความต่อเนื่องทางธุรกิจหลังสถานการณ์น้ำท่วม วงเงิน 1,000 ล้านบาท มี 5 ธนาคารพันธมิตรร่วมโครงการปล่อยสินเชื่อด้วย คือ SME D BANK, TCB, BBL, KTB และ SCB
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Smart Green ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันสูงสุด 4 ปี ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการสายกรีนเป็นอย่างสูง หลังจากเปิดโครงการได้เพียง 3 เดือน สามารถค้ำประกันเต็มวงเงินแล้ว 1,000 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบการไปแล้วกว่า 200 ราย (ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2567) และขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวนเพิ่มวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ ซึ่งคาดว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ หรือ Credit Guarantee เพื่อผู้ประกอบธุรกิจสีเขียว มีแนวโน้มดี ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจในยุคโลกร้อนที่กำลังปรับตัวสู่สังคมคาร์บอนต่ำด้วยการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมีรัฐบาลเป็นแกนหลักในการดำเนินมาตรการความช่วยเหลือ ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และกลไกค้ำประกัน Credit Guarantee ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ ร่วมกับธนาคารรัฐ และธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าไม่สะดุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 8 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐ คือ 1.การท่องเที่ยว 2.การแพทย์และสุขภาพ 3.อาหาร 4.การบิน 5.ขนส่ง 6.ผลิตยานยนต์แห่งอนาคต 7.เศรษฐกิจดิจิทัล และ 8.การเงิน
ผู้ประกอบการสายกรีนสามารถตรวจสุขภาพทางการเงิน Credit Scoring ของท่าน และเข้าถึงข้อมูลค้ำประกันสินเชื่อโครงการ Smart Greenได้ที่ Line OA @tcgfirst