คอลัมน์ : Market Move
ธุรกิจเกสต์เฮาส์ที่เน้นจุดขายด้านความเรียบง่ายและวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์เหมือนวัยเกษียณ กำลังกลายเป็นธุรกิจฮอตฮิตในจีนแผ่นดินใหญ่ หลังเหล่าวัยทำงานชาวจีนทั้งชาย-หญิงต่างพากันมองหาที่หลบภัยจากความกดดันในการทำงาน และการแข่งขันหางาน จนทำให้ที่พักแนวนี้เป็นเดสติเนชั่นท่องเที่ยวยอดนิยมแทนที่คาเฟ่หรือสถานที่ท่องเที่ยวตกแต่งสวยงามสำหรับเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินที่เคยได้รับความนิยม
สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า ธุรกิจเกสต์เฮาส์สไตล์ที่พักใจสำหรับวัยทำงานที่มุ่งเป้าสำหรับให้ลูกค้าที่เกิดช่วงทศวรรษที่ 1990s ซึ่งกำลังอยู่ในวัยเริ่มทำงานจนถึงวัยกลางคนได้มาใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์เหมือนวัยเกษียณ จนได้ชื่อเล่นว่าเป็นเนิร์สซิ่งโฮมสำหรับวัยทำงาน กำลังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ เช่นเดียวกับการเป็นหัวข้อสนทนายอดนิยมบนโลกออนไลน์
สะท้อนจากจำนวนโพสต์ที่พูดถึงสถานที่แนวนี้ทั้งบน เว่ยป๋อ (Weibo) และ โต่วอิน (Douin) สองโซเชียลมีเดียหลักของจีน ซึ่งตามข้อมูลของบริษัทวิจัยสื่อ Novarca ชี้ว่า จำนวนการพูดถึงเนิร์สซิ่งโฮมสำหรับวัยทำงานพุ่งขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2024 จนถึงปัจจุบัน โดยจำนวนการพูดถึงเนิร์สซิ่งโฮมสำหรับวัยทำงาน เริ่มพบเห็นบนเว่ยป๋อและโต่วอินในเดือนมกราคม 2024 ด้วยจำนวนต่ำกว่า 500 โพสต์ ก่อนจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในช่วงเดือนพฤษภาคม ด้วยจำนวนกว่า 3,500 โพสต์ และเพิ่มต่อเนื่องเป็นมากกว่า 6,000 โพสต์ในเดือนตุลาคม 2024
โดยที่พักแนวนี้ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภค Gen Z และมิลเลนเนียล ที่ต่างต้องการสัมผัสไลฟ์สไตล์เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ อย่างการได้นอนหลับพักผ่อนเมื่อพระอาทิตย์ตก และตื่นนอนเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น
ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันในประเทศจีน กลุ่มวัยทำงานอายุ 20-30 ปี เป็นกลุ่มที่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลและต่อเนื่องนับตั้งแต่วัยเรียน การสอบเข้ามหาวิทยาลัย จนมาถึงชีวิตการทำงานซึ่งสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้กลุ่มที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเผชิญความท้าทายในการหางาน ส่วนกลุ่มที่ทำงานแล้วต้องรับแรงกดดันและการงานที่อาจไม่ก้าวหน้าตามที่หวัง
สอดคล้องกับรายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า นักศึกษาชาวจีนประมาณ 30% ยอมจ่ายเงินมากถึง 19,000 หยวน (ประมาณ 90,000 บาท) ให้นายหน้าแลกกับโอกาสฝึกงานในบริษัทชื่อดังหวังอัพเกรดโปรไฟล์และเพิ่มความได้เปรียบในการหางาน และหลายคนตกเป็นเหยื่อของนายหน้าหางานเถื่อน ซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นหวังฉวยโอกาสในจังหวะที่อัตราว่างงานของบัณฑิตจบใหม่พุ่งสูง
หลังผลสำรวจเมื่อเดือนเมษายนของบริษัทจัดหางาน จ้าวพิน (Zhaopin) ชี้ว่า ในบรรดานักศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโทที่จะจบการศึกษาในเดือนมิถุนายนมีเพียง 48% เท่านั้นที่หางานได้แล้ว
สถานการณ์นี้ทำให้เกิดความต้องการสถานที่พักผ่อนทางใจ จนทั่วประเทศจีนเกิดธุรกิจเกสต์เฮาส์ซึ่งมีจุดขายเป็นทำเลท่ามกลางธรรมชาติห่างจากเมืองใหญ่ และการนำเสนอกิจกรรมแบบสโลว์ไลฟ์เหมือนการใช้ชีวิตของผู้คนหลังเกษียณ อย่างทานอาหารร่วมโต๊ะแบบครอบครัว รวมถึงราคาจับต้องได้ง่ายขึ้นหลายแห่ง เช่น ในเมืองซูโจวที่อยู่ห่างจากกรุงเซี่ยงไฮ้มาทางตะวันตกประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งให้บริการที่พักด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 600 หยวนต่อเดือน (ประมาณ 2,860 บาทต่อเดือน)หรือตกวันละ 95 บาทเท่านั้น โดยช่วง 3 เดือนตั้งแต่เปิดบริการมานั้นมีผู้เข้าพักประมาณ 100 คนแล้ว
หญิงชาวปักกิ่งวัย 27 ปี หนึ่งในลูกค้าของเกสต์เฮาส์แนวเนิร์สซิ่งโฮมสำหรับวัยทำงานในซูโจว เปิดเผยสาเหตุที่มาใช้บริการว่า ชีวิตในเมืองเร่งรีบมากจนรู้สึกราวกับไม่มีแม้แต่เวลาจะพักหายใจ ขณะที่ลูกค้าชายวัย 20 ปีอีกราย กล่าวว่า การมาพักที่เกสต์เฮาส์นี้ช่วยทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับมายังบ้านที่เคยอาศัยในวัยเด็ก
ปรากฏการณ์นี้สะท้อนทั้งปัญหาทางเศรษฐกิจและโอกาสของธุรกิจโรงแรมที่พัก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กที่จะเข้ารับดีมานด์ของเหล่าวัยทำงาน ซึ่งต้องจับตาดูว่า แนวโน้มนี้จะขยายออกไปนอกประเทศจีนด้วยหรือไม่