ปีแห่งการประคองตัว

automobile
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง

อีเวนต์ใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์บ้านเราเพิ่งปิดฉากไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

หากจะมาไล่ดูในแง่ของยอดจองรถยนต์ที่เกิดขึ้นในงานมหกรรมยานยนต์ หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2024 ต้องบอกว่าไม่ได้ “เซอร์ไพรส์” สักเท่าไร

กับสถิติใหม่ 54,513 คัน ที่มากขึ้น เพราะไปไล่ดูจากตัวเลขย้อนหลัง 5 ปี นับจากปี 2562 จำนวน 37,489 คัน, ปี 2563 จำนวน 33,753 คัน, ปี 2564 จำนวน 39,125 คัน, ปี 2565 จำนวน 36,679 คัน และ ปี 2566 จำนวน 53,248 คัน

ดูจากจำนวนสองปีหลัง ที่ยอดรวมในปีนี้ถือว่าพุ่งพรวด แบบถ้าคนไม่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์จะต้องร้อง “ว้าว”

ในปี 2566 ที่ผ่านมา อาจจะได้เเต้มบวกจากจำนวนแบรนด์จีนที่เข้ามาทำตลาด และมาตรการสนับสนุนรถอีวี ด้วยส่วนลด 150,000 บาท ที่กำลังจะสิ้นสุดลง

แต่สำหรับปีนี้ แน่นอนมีแบรนด์จีนเข้ามาเพิ่มขึ้น มีจำนวนรุ่นของรถให้เลือกมากขึ้น ขณะที่ยอดขายรถและตลาดโดยรวมอยู่ในอาการโซซัดโซเซมาตลอด จากกำลังซื้อและความเข้มงวดของสถาบันการเงิน

ADVERTISMENT

โดยเฉพาะตลาดรถปิกอัพในช่วงสองปีที่ผ่านมา (2566-2567) ยอดขายหายไป 200,000 คัน ยอดขายรถยนต์โดยรวมร่วงหล่นเหลือแค่ 30% เท่านั้น

แม้จะเป็นรถเพื่อการใช้งานโดยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมขนส่ง เอสเอ็มอี เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพต่าง ๆ ที่เคยเป็นตลาดที่รุ่งเรือง แต่กลับร่วงลง ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลจากหนี้ครัวเรือน ทำให้สถาบันการเงินมีความเข้มงวดขึ้น ทำให้ตลาดนี้ระส่ำไปพอสมควร

ADVERTISMENT

แม้ว่ารัฐบาลเตรียมจะตั้งกองทุน 5,000 ล้าน เพื่ออุดหนุนผลขาดทุนจากรถกระบะตามจริง คันละไม่เกิน 50,000 บาท แต่หลักการนี้ต้องปล่อยสินเชื่อรถกระบะมากกว่าปี 2567 เท่าตัว เพื่อจัดเก็บภาษีให้ได้มากขึ้น และเพื่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบ

ไม่เพียงเท่านี้ “ค่ายรถยนต์” ยังหมายรวมไปถึงผู้ผลิตชิ้นส่วน ทั้งซัพพลายเชนต่างยัง “หวัง” ให้รัฐบาลมีมาตรการที่จะช่วยเหลือต่าง ๆ กับอุตสาหกรรมที่กำลังตกอยู่ในความยากลำบากนี้ต่อไปด้วย หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า “ดีมานด์” ยังมีอยู่ เพียงแต่ค่ายรถยนต์จะทำอย่างไรให้ยอดจองที่ได้มาผ่านด่านความเข้มงวดของสถาบันการเงินผันมาเป็น “ยอดส่งมอบ”

แต่ท้ายที่สุด คงต้องมานั่งดูกันว่าตัวเลขที่ได้มาจะสะท้อนออกมาเป็นยอดจดทะเบียนจริง ๆ ของเดือนมกราคม หรือให้ยาวไปถึงกุมภาพันธ์ปีหน้า ว่าจะทำกันได้สักมากน้อยเท่าไร เพราะพอเข้าสู่เดือนมีนาคม-เมษายน การขายก็จะถูกกระตุ้นใหม่ กับงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2025

ท้ายที่สุดแล้วเราจะได้เห็นดีมานด์ที่แท้จริง และความต้องการของตลาดรถยนต์ไทยที่ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงมากที่สุดเมื่อไร

จากยอดขายของปี 2567 ทั้งนี้ บรรดาค่ายรถยนต์ประเมินยอดขายไว้ที่ 560,000-ไม่เกิน 600,000 คัน ส่วนปีหน้าแม้จะยังไม่มีการประเมินตัวเลขคาดการณ์ที่ชัดเจน แต่ก็จะไม่สูงไปกว่านี้นัก

ท้ายที่สุด “บทส่งท้ายของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย” ในปี 2567 จะรักษาทรงให้อยู่ และประคองตัว (รอด) ต่อไปอย่างไร ต้องติดตาม