เขตทะเลไทย-เมียนมาต้องชัดเจน

คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ

เหตุการณ์ในคืนวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการแจ้งเหตุเรือรบเมียนมาใช้อาวุธระดมยิงกองเรือประมงอวนล้อมของไทย ขณะเข้าทำการประมงห่างจากเกาะพยาม ประมาณ 12 ไมล์ทะเล พร้อมเข้าจับกุมเรือ ส.เจริญชัย 8 รวมลูกเรือจำนวน 31 คน (ไทย 4 เมียนมา 27 คน) ลากจูงเข้าไปในเขตเมียนมา โดยนำเรือไปไว้ที่ สน.เรือ 58 เกาะย่านเชือก

นอกจากนี้จากการระดมยิงกองเรือประมงอวนล้อมไทย ยังทำให้ลูกเรือไทยได้รับบาดเจ็บ 4 คน และเสียชีวิตอีก 1 คน โดยมาจากเรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ลูกเรือบาดเจ็บ 2 คน เรือดวงทวีผล 333 มีลูกเรือเสียชีวิตจากการจมน้ำตายอีก 1 คน และเรือ ต.274 ลูกเรือได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน

การกระทำของเรือรบเมียนมาอ้างว่า กองเรือประมงอวนล้อมของฝ่ายไทยเข้าไปทำการประมงในอาณาเขตทางทะเลของเมียนมาจึงต้องเข้าทำการจับกุม ขณะที่กองเรือประมงฝ่ายไทยก็อ้างว่า ไม่ได้ล้ำเข้าไปทำการประมงในอาณาเขตทางทะเลของเมียนมา

ประกอบกับ ในขณะทำการประมงเอง ทางศูนย์ควบคุมเรือประมง FMC ซึ่งเฝ้าติดตามเรือประมงไทยด้วยระบบติดตามเรือ VMS ตลอด 24 ชม. ก็แจ้งแต่เพียงว่า “เรือประมง….มีเส้นทางเดินเรือเข้าใกล้เขต (ทะเล) ประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมา) โปรดเดินเรือด้วยความระมัดระวัง” เท่านั้น

ผลจากเหตุการณ์กองเรือประมงอวนล้อมไทยถูกระดมยิงและเข้าทำการจับกุมเรือ ส.เจริญชัย 8 พร้อมลูกเรือได้ถูกนำตัวไปคุมขังไว้ที่สถานีตำรวจเมียนมาที่เกาะสอง นานถึง 2 สัปดาห์ ปรากฏรายงานข่าว ศาลเมียนมาที่เกาะสอง ได้ตัดสินคดีนี้ว่า เรือ ส.เจริญชัย 8 พร้อมลูกเรือ มีความผิด 2 ข้อหา

ได้แก่ ลักลอบเข้าไปทำการประมงในเขตทะเลของเมียนมา กับลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ตัดสินให้จำคุกอยู่ระหว่าง 4-6 ปี พร้อมค่าปรับโดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า คำตัดสินของศาลเมียนมาที่เกาะสองนั้นเป็นการตัดสินแจ้งข้อหาแต่เพียงฝ่ายเดียว ยังไม่ได้มีพิจารณาหรือขอหลักฐานหรือแจ้งพิสูจน์จากฝ่ายไทยที่ว่ากองเรือประมงไทยนั้นได้เข้าไปรุกล้ำจับปลาในน่านน้ำเขตทะเลจริงหรือไม่

ADVERTISMENT

ขณะที่การดำเนินการของรัฐบาลไทยในกรณีนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน ทั้งการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุจากการระดมยิงเรือไทย เพราะเท่าที่ผ่านมามีแต่การออกข่าวว่า เป็นการพิจารณาคดีตาม กม.เมียนมาเพื่อให้มีการอภัยโทษลูกเรือกลับประเทศไทยเท่านั้น

จนกลายเป็นข้อกังวลของทั้งผู้ประกอบการประมงไทยและหน่วยงานที่ดูแลความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยในประเด็นที่ว่า กองเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำเมียนมาจริงหรือไม่ หรือพื้นที่ที่ทำการประมงนั้นเป็นพื้นที่ทับซ้อนที่ทั้ง 2 ประเทศต่างอ้างสิทธิ

ADVERTISMENT

ดังนั้นการปล่อยให้ลูกเรือประมง ส.เจริญชัย 8 ให้ยอมรับคำตัดสินของศาลเกาะสอง เพื่อให้มีการอภัยโทษได้ตัวกลับไทยนั้น จะกลายเป็นปัญหากรณีข้อพิพาทด้านเขตแดนทางทะเลต่อไป โดยปล่อยให้เมียนมากระทำการเอาแต่เพียงฝ่ายเดียวได้