
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : อมร พวงงาม
วันก่อนนั่งฟังอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร รับบทนักวิชาการ บรรยายพิเศษให้ สส.และบุคลากรทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ทั้งสอบได้และสอบตก นำไปพัฒนาและยกระดับตามโครงการ “เสริมศักยภาพ สส.” ที่ รร.อินเตอร์คอนฯ หัวหิน
ชื่นชอบหลายเรื่องทีเดียวครับ
ยอมรับครับว่าอดีตนายกฯเราเก่งจริง เคยได้รับฉายาเป็นอัศวินคลื่นลูกที่ 3 หยิบจับตรงไหน “โดน” ไปหมด แถมมีลูกเล่นเรียกเสียงฮา เสียงตีมือได้ตลอดเวลา
ประเด็นที่ชอบต้องยกให้ “บ้านเพื่อคนไทย” ไอเดียสุดยอดจริง ๆ
ตอนแรกที่ได้ยินข่าว เห็นว่าเป็นเรื่อง “บ้านหลังแรก” ใจเสียเลยครับ กลัวจะซ้ำรอย “รถคันแรก” ที่ทำเอาตลาดรถยนต์เซไม่เป็นท่า จาก “ดีมานด์เทียม” เมื่อหลายปีก่อน แต่สำหรับบ้านเพื่อคนไทย คนละคอนเซ็ปต์กัน มีการใช้กฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่อิงจากสิทธิการใช้ประโยชน์
เป็นสิทธิที่ติดอยู่กับตัวอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่ว่าจะเปลี่ยนตัวเจ้าของก็ยังมีสิทธิอยู่ ระยะยาวด้วยประมาณ 90 ปี ที่ดินใช้ทำบ้านเป็นของรัฐเอามาทำประโยชน์ ส่วนใหญ่เป็นที่การรถไฟฟ้าฯ ลักษณะเป็นคอนโดฯ พื้นที่ใช้สอยกว่า 30 ตร.เมตร
มาพร้อมเฟอร์ฯตกแต่งครบจบทั้งหมด “ส้วมไฟฟ้า” ซะด้วย คนได้สิทธิต้องไม่เคยมีบ้านมาก่อน เงินเดือนไม่เกิน 2 หมื่นบาท งานนี้ไม่ต้องดาวน์เข้าอยู่ได้เลย ผ่อนแค่เดือนละ 4 พันบาท แถมแต่ละโครงการมีรถไฟฟ้าให้นั่ง 20 บาทตลอดสาย
เด็กจบใหม่เริ่มทำงานเงินเดือนหมื่นห้าถึงสองหมื่น อยู่ได้สบาย ๆ อดีตนายกฯยกตัวอย่างคนอยู่สลัม วัน ๆ จะคิดแต่ว่า “พรุ่งนี้จะมีอะไรกิน” แต่ถ้าอยู่บ้านเพื่อคนไทย นั่งส้วมไฟฟ้า เวลาปลดทุกข์สบายสุด ๆ เชื่อว่าความคิดแต่ละคนจะกว้างไกลมากขึ้น
อธิบายแบบนี้เห็นภาพเลยครับ เพราะวันก่อนเพิ่งได้โอกาสไปออกรอบ สนามกอล์ฟสยามคันทรีคลับแบงคอก ที่นั่นใช้ “ส้วมไฟฟ้า” เหมือนกัน ก่อนทีออฟก็จัดซะหน่อย หย่อนก้นลงไปมีลมร้อน ๆ เป่ารอบโถ ฟินจริง ๆ ระหว่างปฏิบัติภารกิจ ก็คิดน้อยคิดใหญ่ไปสารพัด เอ…เกมกอล์ฟวันนี้จะเอาแบบไหนดีน้า ?
คิดไปไกลถึงประโยคให้สัมภาษณ์ของบรรดาโปรทั้งหลายที่ลงแข่ง ส่วนใหญ่บอกคล้าย ๆ กันให้ความสำคัญกับทุกชอต และสะวิงทุกชอตให้เหมือนตอนซ้อม โอเค…เลยครับ วันนั้นผลงานออกมาดีเกินคาด
เรื่องคิดไกล เอาให้ใกล้ตัวอีกนิด สัปดาห์ที่แล้วมีข่าวใหญ่ช็อกวงการ “อุตสาหกรรมยานยนต์” คือ ฮอนด้าและนิสสัน ทำ MOU จะร่วมมือกันรุกตลาด EV และการเคลื่อนที่อัจฉริยะ
โดยเชื่อว่า โลกยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงเร็วจี๋ จำเป็นต้องรวมจุดแข็งของหลาย ๆ บริษัท และเร็ว ๆ นี้จะมีมิตซูบิชิอีกเจ้าเข้าร่วม เพื่อต่อกรกับแบรนด์รถ EV จากจีน และเทสลาจากอเมริกา
มองเผินๆ คงไม่มีอะไรมาก เพราะค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเขาร่วมมือกันมานานแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยี แต่ถ้ามองกันลึก ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราเห็นความเพลี่ยงพล้ำของค่ายรถญี่ปุ่นที่เสียตำแหน่งสำคัญ ๆ ให้กับจีนและอเมริกาเยอะ และหลายค่ายกำลังตกที่นั่งลำบาก จังหวะนี้คงเป็นการ “ดิ้น” หนีตาย
แต่ถ้าการรวมกันครั้งนี้สำเร็จ ทำให้วอลุ่มรถ EV ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญ และทำให้ต้นทุนการผลิตรถ EV ต่อหน่วยถูกลง คงไม่ใช่แค่การดิ้นหนีตาย แต่กลายเป็นจังหวะ “เอาคืน”
นึกออกแหละ คนญี่ปุ่นทุกบ้าน “นั่งส้วมไฟฟ้า” เห็นยังทำให้คิดได้ไกลจริง