
บทบรรณาธิการ
กรณีดาราภาพยนตร์จีนถูกจับตัวโดยแก๊งสแกมเมอร์ ก่อนปล่อยตัวออกมา นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ในเรื่องภาคท่องเที่ยว ต้องเร่งแก้ไขดึงความเชื่อมั่นว่าการมาเที่ยวเมืองไทยนั้นปลอดภัยเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยต่อปีสูงกว่าหลายประเทศ ปีก่อนประมาณ 6-7 ล้านคน ปีนี้ตั้งไว้ 9 ล้านคน กรณีซิงซิง (XingXing) สร้างความกังวลต่อการมาเที่ยวไทย ทั้งที่เมืองไทยปลอดภัย ด้านจิตวิทยาส่งผลให้นักท่องเที่ยวลังเลมาเที่ยวไทย หากไม่รีบแก้จะกลายเป็นปัญหาระยะยาว ขณะเดียวกันต้องดึงคนอินเดียมาเที่ยวไทยมากขึ้น จะช่วยทดแทนได้ส่วนหนึ่ง
ผู้ประกอบการกังวลว่านักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามาในช่วงเทศกาลตรุษจีนอาจได้รับผลกระทบจากกรณีซิงซิง ทราบว่ามียอดจองล่วงหน้ายกเลิกแล้ว 10-20% ส่วน นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ชี้ว่า การยกเลิกคอนเสิร์ตของศิลปินชาวฮ่องกง อีสัน ชาน หรือ เฉิน อี้ซวิ่น ในเดือนกุมภาพันธ์ ให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัยของตัวศิลปิน ทีมงาน และแฟนคลับด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวจีนยกเลิกการจองเข้ามาเที่ยวไทยในช่วงสั้น จึงมีความกังวลว่า ตลาดจีนเที่ยวไทย ปี 2568 จะกระทบจากข่าวเชิงลบด้านความปลอดภัยอีกครั้ง
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า สำหรับนักท่องเที่ยวจีนต้องดูสัญญาณในช่วงวันตรุษจีน 2568 ตรงกับวันที่ 29 มกราคมนี้อีกครั้ง ที่ผ่านมามีข่าวเชิงลบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างมาเที่ยวไทยแล้วจะถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ หรือการขายอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งแม้ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในไทย แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็เชื่อกันจนวูบหายไปหลายเดือน มากรณีของซิงซิงที่เกิดขึ้นจริง รัฐบาลควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา โดยเฉพาะการแก้ไขข่าวเชิงลบ อย่างที่จัดตั้งหน่วยงาน หรือวอร์รูม เพื่อตอบโต้อย่างทันที ไม่ให้กระแสเชิงลบลุกลามเร็วจนควบคุมไม่ได้
รัฐบาลจำเป็นต้องดูแลในเรื่องความมั่นคงของประเทศไทย ให้มีความเข้มข้นมากกว่า ไม่ใช่ให้ใครเดินทางไปกลับระหว่างไทยและเพื่อนบ้านได้ง่ายเกินไป จนไร้ความปลอดภัย อาทิ เมียนมา เพราะปัจจุบันไม่ว่าจะคนดีหรือคนร้ายก็เดินทางผ่านชายแดนได้ง่าย ๆ ทำให้ควรพัฒนาในการคัดกรองคนเข้าประเทศอย่างเข้มข้น มีมาตรการดูแลอย่างจริงจัง
ความห่วงใยจากวงการธุรกิจเป็นเรื่องที่รัฐบาลควรรับฟังและให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการตรวจสอบกลั่นกรองอย่างเข้มข้นมากขึ้น สำหรับคนต่างชาติที่เดินทางเข้าออกอย่างง่าย ๆ จากนโยบายฟรีวีซ่า ทั้งที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เมื่อเกิดผลในเชิงลบ กลายเป็นช่องทางของมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งไม่เพียงทำลายชื่อเสียงของประเทศ แต่ยังลดเสน่ห์ในเชิงท่องเที่ยวของประเทศ และอาจกระทบต่อเศรษฐกิจที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัว จึงควรเร่งหามาตรการป้องกันอย่างจริงจังมากขึ้น