
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง
ว่าด้วยปัญหาจาก “ฝุ่น” ช่วงที่ผ่านมาหลายคนมีความสุขกับมวลอากาศหนาวที่เข้ามาปะทะให้เราได้ดีใจกัน
คำถามที่ตามมาพร้อมกับมวลอากาศเย็น ว่าหมอก หรือควัน หรือแท้ที่จริงคือ “ฝุ่น” มลพิษทางอากาศที่หลายเมืองใหญ่ ๆ กำลังเชิญกับ PM 2.5 รวมทั้งกรุงเทพมหานคร
ปัญหาที่กลับมาเยี่ยมเราในทุก ๆ ปี จนกลายเป็นความซ้ำซาก ไม่สามารถบริหารจัดการได้ แม้ว่ารัฐบาลไทยจะประกาศให้ปัญหา PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ผ่านไป 7 ปี
วันนี้ ณ พ.ศ. 2568 คนกรุงเทพฯ และคนไทยยังต้องเผชิญกับปัญหานี้ ผลจากต้นตอเดิม ๆ
ทั้งการเผาในพื้นที่เกษตร โรงงานอุตสาหกรรม โรงไฟฟ้า การก่อสร้าง ยานพาหนะบนท้องถนน หรือแม้แต่ปัญหาฝุ่นควันจากชายแดน ฯลฯ
หรือแม้ว่าสภาพอากาศที่กรุงเทพฯ กำลังประสบปัญหา “อากาศหยุดนิ่ง ลมพัดผ่านได้ยาก” เนื่องจากมีตึกสูงปิดกั้นทางลม การก่อสร้างที่มีอยู่รายล้อมพื้นที่มหานครแห่งนี้ กลายเป็นปัจจัยเกื้อหนุนทำให้คุณภาพอากาศเลวร้ายลง
ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและสุขภาพของคนไทย
และเป็นปัญหาที่หลายประเทศยังไม่สามารถแก้ไขได้
ตัวเลขล่าสุดที่คนไทยยังคงต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นยังเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ ด้วยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 62.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
บ้านเราวันนี้แก้ไขปัญหากันเฉพาะหน้า การประกาศให้มีการ Work from Home เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับฝุ่น และลดการเดินทาง การใช้รถบนท้องถนน การล้างถนน ฯลฯ ล้วนแต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าชั่วคราว
แม้หลายคน หลายฝ่าย หลายหน่วยงานพยายามร่วมด้วยช่วยกัน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การปรับตัว ปรับพฤติกรรมของคนไทย สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจจริงที่อยากมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา แต่ “ฝุ่น” เจ้าปัญหาเล็ก ๆ ที่เริ่มส่งผลรุนแรงมากขึ้น
ภัยร้ายต่อสุขภาพที่คุกคามเราแบบผ่อนส่ง
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยช่วยกันแก้ไขปัญหาที่ “ต้นตอ” จากจุดเริ่มต้น…อย่างจริงจัง
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะมีกฎหมาย มาตรการการควบคุม มาตรการบังคับใช้อย่างจริงจัง เพราะลำพังแค่ขอความร่วมมือนั้นไม่เพียงพอ
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ภัยคุกคามจาก “ฝุ่น” มลพิษทางอากาศ ควรถูกหยิบยกเป็นวาระแห่งชาติ ที่คนทั้งชาติต้องใส่ใจและจริงจัง
ถึงเวลาแล้วหรือยัง ?