
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง หลังได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ว่าตัวประกันคนไทยจำนวน 5 คน กับตัวประกันชาวอิสราเอลอีก 3 คนได้รับการปล่อยตัวแล้วในวันนี้ (31 ม.ค.)
ทั้งนี้ มีสื่อต่างประเทศรายงานชื่อตัวประกันไทยทั้ง 5 คน ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา นายเสถียร สุวรรณคำ นายวัชระ ศรีอ้วน นายบรรณวัชร แซ่ท้าว และนายสุรศักดิ์ ลำเนา ซึ่งได้ถูกจับตัวไป หลังนักรบกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 พร้อม ๆ กับตัวประกันชาติอื่น ๆ รวมทั้งชาวอิสราเอลด้วย
การปล่อยตัวประกันครั้งนี้นับเป็นการปล่อยตัวประกันครั้งที่ 2 โดยแลกเปลี่ยนกับชาวปาเลสไตน์จำนวน 110 คนที่ถูกคุมขังอยู่ หลังจากที่อิสราเอลกับกลุ่มฮามาสสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงนาน 6 สัปดาห์ในฉนวนกาซา มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2568 หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากทำสงครามด้วยการที่อิสราเอลตอบโต้กลุ่มฮามาสด้วยการบุกเข้าไปยังฉนวนกาซา ส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 40,000 คน
ในแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศ ได้แสดงความซาบซึ้งใจที่มีต่อกาตาร์ อียิปต์ อิหร่าน ตุรกี สหรัฐ อิสราเอล และสภากาชาดสากล ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำคัญต่อการแลกเปลี่ยน ซึ่งนำไปสู่การปล่อยตัวประกันไทยจำนวน 5 คนในครั้งนี้
ทว่าจากการตรวจสอบรายชื่อตัวประกันชาวต่างชาติที่ถูกจับตัวไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ซึ่งเชื่อกันว่ามีจำนวนถึง 251 คน และได้รับการปล่อยตัวเพื่อแลกเปลี่ยนกับชาวปาเลสไตน์ก่อนหน้านี้รวมถึงครั้งนี้ ปรากฏยังมีตัวประกันคนไทยเหลือตกค้างอยู่อีก 1 คน
(มีรายงานว่าตัวประกันคนไทยถูกจับตัวไป 26 คน ได้รับการปล่อยตัวครั้งที่ 1 เหลือตัวประกัน 8 คน จำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน เหลือตัวประกัน 6 คน ได้รับการปล่อยตัวล่าสุด 5 คน คงเหลือตัวประกันคนไทยตกค้างอย่างเป็นทางการอีก 1 คน)
จึงควรที่รัฐบาลไทยจักต้องเร่งดำเนินการทางการทูตในทุกวิถีทางที่จะนำตัวประกันคนไทยที่เหลืออยู่อีก 1 คนพร้อมนำร่างตัวประกันไทยที่เสียชีวิตกลับคืนสู่ประเทศไทยให้ทันกับข้อตกลงหยุดยิงนาน 6 สัปดาห์ในรอบนี้ (สิ้นสุดข้อตกลงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์)
เนื่องจากหากพ้นกำหนดไปแล้วยังไม่มีใครคาดการณ์ต่อไปได้ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะกลับมารบกันอีก หรือจะสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเป็นการถาวร จากสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่แปรผันตลอดเวลา อันจะมีผลกระทบต่อตัวประกันไทยที่เหลือตกค้างอยู่ต่อไป ทั้ง ๆ ที่คนไทยในอิสราเอลที่ถูกจับตัวไปฐานะไม่ได้เป็นคู่กรณีกับความขัดแย้งในครั้งนี้