
คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ตัดสินใจดำเนินการต่อ “ทุนสีเทา” ที่ปักหลักในเมียนมาและกัมพูชา สร้างความเสียหายต่อประเทศไทย ด้วยการตัดไฟฟ้า ห้ามขนส่งน้ำมัน ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ห้ามหันเสาสัญญาณในประเทศออกนอกประเทศ ตัดสัญญาณโทรศัพท์
ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอจะหารือกับอัยการ ออกหมายจับผู้นำกองกำลัง BGF หรือผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงที่ปกครองเมืองเมียวดี เมียนมา ได้แก่ พันเอกซอชิตตู่ (Colonel Saw Chit Thu) หรือพันเอกหม่องชิตตู, พันโทโมเต โธน (Lieutenant Colonel Mote Thone) และพันตรีทิน วิน Tin Win (Major Tin Win) ในข้อหาค้ามนุษย์ หลังจากทางการไทยได้ช่วยเหลือชาวอินเดีย ซึ่งถูกบังคับทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์
สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ได้จัดการประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์และผลที่เกิดขึ้น หลังดำเนินมาตรการต่าง ๆ ต่อพื้นที่ชายแดนเมียนมา รวมถึงจะพิจารณาแนวทางออกมาตรการเพิ่มเติม
อาทิ ข้อเสนอจากกระทรวงพาณิชย์ เรื่องการประกาศห้ามส่งออกแผงโซลาร์เซลล์ไปยังเมียนมาและกระทรวงพลังงาน เพื่อหารือมาตรการที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้มด้วย ทั้งนี้รัฐบาลยังคงมาตรการเหล่านี้อย่างเต็มรูปต่อไปอีกสักระยะ ยังไม่มีการทบทวนหรือผ่อนปรนใด ๆ
และจากการที่ได้ดำเนินการมาตรการดังกล่าว เป็นการกดดันทางอ้อม จนทำให้ผู้นำกองกำลังบีจีเอฟและดีเคบีเอ ออกมาแสดงท่าทีต่อต้านกลุ่มทุนเทา แต่หากพบว่าปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังไม่ลดลง ก็เตรียมจะออกมาตรการเพิ่มให้ครอบคลุมมากขึ้น
สำหรับชายแดนไทยกัมพูชา ที่ปอยเปต เป็นอีกจุดที่ทุนสีเทาเปิดสำนักงานเป็นอาคารสูงขนาดใหญ่หลายแห่ง เพื่อก่ออาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ เจ้าของอาคาร 25 ชั้น เป็นคนสัญชาติไทย ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รู้ว่าเป็นคนสัญชาติไทย ควรจะดำเนินการถอนสัญชาติ
ทางตำรวจและ กสทช. ได้ดำเนินการตัดอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์มาแล้วหลายรอบ ครั้งหลังสุด เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนจีน และมีการหารือกับผู้นำจีนในเรื่องนี้ ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ดี ที่รัฐบาลดำเนินการอย่างเฉียบขาดต่ออาชญากรรมออนไลน์ ที่ใช้สาธารณูปโภคของไทย หลอกลวงต้มตุ๋นคนไทย มีมูลค่าความเสียหายวันละ 80 ล้านบาทอย่างต่อเนื่อง
อีกประเด็นสำคัญคือ การที่ทุนสีเทาใช้อินเทอร์เน็ต สัญญาณโทรศัพท์จากไทย มีกระแสข่าวว่า มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวก รัฐบาลควรสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพื่อให้เป็นแบบอย่าง เพื่อให้เกิดความยำเกรงต่อกฎหมาย และเป็นการป้องกันการขยายตัวของการร่วมมือกันกระทำความผิด
ไทยเป็นประเทศเปิดให้ต่างชาติเข้าประเทศโดยหวังผลกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน แต่การที่ต่างชาติถือเป็นโอกาสก่ออาชญากรรม ย่อมมีผลทำลายเศรษฐกิจ ทำลายความปลอดภัย และบรรยากาศการท่องเที่ยว