
คอลัมน์ : นอกรอบ ผู้เขียน : Bnomics : ธนาคารกรุงเทพ
ท่ามกลางราคา “ทองคำ” พุ่งทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารกลางทั่วโลกต่างสะสม “ทองคำ” เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลก
แม้ว่าบางประเทศจะเลือกเก็บทองคำไว้ในประเทศ แต่หลายประเทศเลือกฝากทองคำไว้ในต่างประเทศ ด้วยเหตุผลสำคัญดังต่อไปนี้
1.ความปลอดภัยและความมั่นคง ธนาคารกลางหลายแห่งเลือกเก็บทองคำในศูนย์กลางทางการเงิน เช่น สหราชอาณาจักร (Bank of England), สหรัฐอเมริกา (Federal Reserve Bank of New York) และสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยสูง และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากสงครามหรือภัยธรรมชาติ
2.ความสะดวกในการซื้อขายและสภาพคล่อง ตลาดทองคำหลักของโลกอยู่ที่ลอนดอน (London Bullion Market) และนิวยอร์ก (COMEX, Federal Reserve Bank of New York) การฝากทองคำไว้ในศูนย์กลางเหล่านี้ช่วยให้สามารถซื้อ-ขายได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาในการขนย้าย
3.การสร้างความเชื่อมั่นทางการเงิน การเก็บทองคำไว้ในประเทศที่เป็นศูนย์กลางการเงินโลก ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นของนักลงทุน และสามารถใช้ทองคำเป็นหลักประกันสำหรับการกู้ยืมหรือทำธุรกรรมระหว่างประเทศ
สถานที่เก็บทองคำสำคัญของโลก
1.Federal Reserve Bank of New York (FRBNY) เป็นศูนย์กลางการเก็บทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
FRBNY ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลทองคำสำรองของรัฐบาลต่างประเทศ ธนาคารกลาง และองค์กรระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยทองคำเหล่านี้ถูกจัดเก็บในห้องนิรภัยใต้ดินของอาคารหลักในแมนฮัตตัน ซึ่งตั้งอยู่ลึกประมาณ 80 ฟุต ใต้ระดับถนน ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1920 เพื่อให้บัญชีผู้ถือครองมีสถานที่เก็บรักษาทองคำที่ปลอดภัย
ปัจจุบัน FRBNY ไม่ได้เป็นเจ้าของทองคำที่เก็บรักษาไว้แต่ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์และผู้ดูแลเท่านั้น
2.Fort Knox เป็นหนึ่งในสถานที่เก็บทองคำที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในโลก
Fort Knox มีโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อการโจมตีทุกประเภท โดยมีประตูนิรภัยหนักถึง 22 ตัน และกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็กหนากว่า 4 ฟุต สถานที่แห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพสหรัฐ ซึ่งมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง
ปัจจุบัน Fort Knox เป็นที่เก็บทองคำสำรองของรัฐบาลสหรัฐ มากกว่า 4,580 ตัน หรือคิดเป็น 147.3 ล้านออนซ์ ซึ่งคิดเป็น 56% ของทองคำสำรองทั้งหมดของสหรัฐ
3.Bank of England หนึ่งในสถานที่เก็บทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ธนาคารกลางอังกฤษมีทองคำสำรองมากกว่า 400,000 แท่ง คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านปอนด์ ทองคำเหล่านี้ถูกจัดเก็บภายในห้องนิรภัยใต้ดิน 9 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ใต้สำนักงานของธนาคารบนถนน Threadneedle Street ในกรุงลอนดอน ห้องนิรภัยแห่งนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงการใช้กุญแจโลหะขนาดใหญ่ยาว 3 ฟุต เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรักษาความปลอดภัย
4.Swiss National Bank (SNB) & Private Swiss Vaults เป็นศูนย์กลางการเก็บรักษาทองคำที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือที่สุด
สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นสถานที่ที่มีความมั่นคงทางการเมืองและประวัติศาสตร์ความเป็นกลาง ทองคำสำรองส่วนใหญ่ถูกเก็บในห้องนิรภัยใต้ดินและบังเกอร์ที่เคยเป็นฐานทัพทหาร ซึ่งถูกดัดแปลงให้เป็นที่เก็บทองคำ ตำแหน่งของทองคำสำรองเหล่านี้ถูกเก็บเป็นความลับ โดยมีรายงานว่าบางแห่งตั้งอยู่ใต้จัตุรัส Bundesplatz ในนครเบิร์น และบางแห่งตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้เฉพาะทางอากาศเท่านั้น
ราคาทองคำโลก และแนวโน้มในอนาคต
ทองคำไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์ แต่ยังเป็น Store of Value ที่ช่วยรักษามูลค่า และมีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น ช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสะสมทองคำสำรองของธนาคารกลางทั่วโลก
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ธนาคารกลางต่าง ๆ ยังคงมีแนวโน้มที่จะซื้อทองคำเพิ่มขึ้น เพื่อใช้เป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ในการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งจากการสำรวจของ World Gold Council ปี 2567 พบว่า ธนาคารกลาง 47 แห่ง จาก 68 แห่งทั่วโลก เห็นตรงกันว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า ควรสะสมทองคำเพิ่มขึ้น
แต่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อะไรก็เกิดขึ้นได้…
ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทองคำยังคงเป็นหลุมหลบภัยของนักลงทุน การถือครองทองคำที่เพิ่มขึ้นของธนาคารกลางและนักลงทุน ยังคงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น ราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดใหม่ หรืออาจพลิกกลับอย่างไม่คาดคิด
จับตาดูให้ดี เพราะในเกมของทองคำไม่มีอะไรแน่นอน การมองให้ขาด สำคัญกว่าการมองให้ไกล