Ugly Truth

แฟ้มภาพไม่เกี่ยวกับข่าว

คอลัมน์ สามัญสำนึก

โดย เมตตา ทับทิม

 

วลีคำนี้ได้ยินทีไรก็สะดุดหูทีนั้น …ugly truth (ข้อเท็จจริงที่น่าหยะแหยง)

จำเรื่องเล่ามาบอกต่อ ลิขสิทธิ์คำพูดเป็นของ “ณัฐพล ลือพร้อมชัย” ผู้บริหารแบงก์กรุงศรีอยุธยา สายงานสินเชื่อบ้านรายย่อย พูดถึงประวัติศาสตร์เมื่อ 2 ปีก่อน

วงการสินเชื่อบ้านน้ำขอดบ่อ หาผู้กู้เครดิตดียากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร นายแบงก์ก็เลยล่อกันเองด้วยการแย่งลูกค้ารีไฟแนนซ์

ผลลัพธ์โผล่ตอนปลายปี 2560 ช่วงต้นปีคาดการณ์ว่าสินเชื่อซื้อบ้าน-คอนโดมิเนียมทั้งระบบน่าจะปล่อยใหม่ที่ 5.9 แสนล้านบาท แต่ของจริงจบที่ 6.3 แสนล้านบาท อีก 4-5 หมื่นล้านบาทงอกขึ้นมาจากวงเงินแย่งลูกค้ารีไฟแนนซ์นี่เอง เป็น ugly truth ในวงการสินเชื่อ

ผู้นำประเทศสหรัฐอเมริกาขยันก่อสงครามการค้ากับจีน ล่าสุดก็ตั้งกำแพงเรียกเก็บภาษีเพิ่ม เราได้เห็นความบอบช้ำของยักษ์ 2 ตัวบนเวทีธุรกิจโลก

อีกฟากหนึ่งธุรกิจส่งออกไทยกระดี๊กระด๊าเพราะเป็นโอกาสที่ส่งออกสินค้าเข้าไปขายในสหรัฐ ภาคเอกชนไทยประเมินว่าเป้าส่งออกปีนี้ขยับแน่ จาก 8% เป็นเท่าไหร่ไม่รู้

แต่บวกเพิ่มแน่ ๆ (เสียงกระซิบบางสายบอกว่าอาจถึง 11%)

เป็น ugly truth เพื่อชาติ

ก่อนหน้านี้ วงการพัฒนาที่ดินมีความใจหายใจคว่ำกับนโยบายแรงงานต่างด้าวเป็นอย่างมาก เป็นอย่างที่สุด เพราะเดดไลน์วันที่ 1 กรกฎาคม 2561 แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในไทยต้องเป๊ะ

เป๊ะอันดับแรกคือต้องเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย เป๊ะอันดับต่อมาเริ่มลงรายละเอียดห้ามทำงานตามประกาศอาชีพสงวนสำหรับคนไทย

ในขณะที่เริ่มมีสัญญาณอ่อน ๆ ว่า ถ้าเป็นแรงงานต่างด้าวในไซต์ก่อสร้าง หรือที่เรียกว่า “แรงงานก่อสร้าง” job description ทำได้เพียงเป็นกรรมกรก่อสร้าง ไม่สามารถทำงานฝีมือได้ เช่น ช่างปูกระเบื้อง ช่างทาสี ช่างไม้ ฯลฯ

จริงหรือเปล่าไม่รู้ มีเจ้าหน้าที่รัฐไปบอกดีเวลอปเปอร์ว่าฉันจะมายืนเฝ้าที่ไซต์งาน แรงงานต่างด้าวขนอิฐแบกปูนได้

แต่ถ้าถือเกรียงขึ้นมาปูกระเบื้อง หยิบแปรงขึ้นมาทาสีเมื่อไหร่ โดนจับทันที มีโทษปรับตั้งแต่ 5 หมื่น-2 แสนบาท

แถมบางกรณีถ้าทำซ้ำมีโทษจำคุกอีกต่างหาก

ล่าสุด ดูเหมือนจะคลี่คลายลงในประเด็นนี้ เพราะทาง “บิ๊กอู๋-พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว” รมว.กระทรวงแรงงานอัพเดตผลหารือของคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว

โฟกัสภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการปลดล็อกสำหรับ “งานที่ขาดแคลนแรงงานในปัจจุบัน” มี 8 งานด้วยกัน

โดยนับรวม “งานก่ออิฐ ช่างไม้ หรือก่อสร้างอื่น” เข้าไปด้วย

หมายความว่าให้แรงงานต่างด้าวทำได้โดยให้อนุญาตเท่าที่จำเป็น และไม่กระทบต่อโอกาสการมีงานทำของคนไทย

กรณีแรงงานต่างด้าวในไซต์ก่อสร้าง ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า จะพัฒนาเป็น ugly truth เปิดช่องให้มีการเรียกรับสินบน หรือจบอย่างแฮปปี้เอนดิ้งกันแน่

อีกเรื่องที่แรงสุด เป็นระเบิดเวลาลูกเบ้อเริ่ม คือปฏิบัติการขอเลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นครั้งที่ 7 โดย “สนช.-สภานิติบัญญัติแห่งชาติ”

งานนี้เว้ากันซื่อ ๆ ถือเป็น ugly truth ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ 7,853 แห่ง เพราะภาษีที่ดินฯ หลักการคือจ่ายตรงให้กับท้องถิ่น ตั้งเป้าเก็บได้ 2-6 หมื่นล้านบาท/ปี

เป็น ugly truth ท่ามกลางบรรยากาศมีเฮของบรรดาผู้มีอันจะกินที่ถือครองทรัพย์สินเกินจำเป็น กฎหมายใหม่ตัวนี้ออกมาบังคับใช้เมื่อไหร่ ปาดเหงื่อกันเป็นแถว เพราะฐานภาษีคิดจากราคาทรัพย์สิน ยิ่งแพงยิ่งจ่ายเยอะ

รวมทั้งฐานคะแนนเสียง เอ๊ย ไม่ใช่สิ กลุ่มคนชั้นกลางก็พลอยเฮไปกับเขาด้วย

เหตุการณ์อะไรที่ยังไม่เกิดย่อมไม่มีใครคาดเดาได้ถูกต้อง รู้แต่ว่าในอนาคตถ้ากฎหมายภาษีที่ดินฯถูกคว่ำลงไปอีกย่อมถือเป็น ugly truth

และถึงตอนนั้น ugly truth อีกเรื่องก็คือคำวิพากษ์วิจารณ์รัฐประหารปี 2557 ทำแล้วเสียของ