สึนามิ…ธุรกิจ

คอลัมน์ สามัญสำนึก
โดย พัฒนพันธุ์ วงษ์พันธุ์

ไม่น่าเชื่อนะครับแม้แต่ธุรกิจระดับโลกอย่าง TUF ยังออกมายอมรับ ธุรกิจกำลังถูก disrupt อย่างรุนแรงจากโลกการค้ายุคใหม่

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TUF คุณธีระพงศ์ จั่นศิริ บอกกับผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ธุรกิจตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะด้วยสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทั้งการบริโภค พฤติกรรม วิธีการบริโภค ช่องทางจำหน่าย ทั่วโลกถูก disrupt ด้วยเทคโนโลยี เรียกว่าเปลี่ยนหมดทั้ง value chain

…วันนี้ถ้าไปเมืองจีน ที่น่าตื่นเต้นคือหากบ้านอยู่ในรัศมี 3 กิโลเมตร สามารถสั่งสินค้าออนไลน์และจัดส่งสินค้าได้ภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคจีน ทำให้จีนกำลังจะกลายเป็นสังคมที่ไม่ใช้เงินสดก่อนประเทศอื่น

โดยสรุปสิ่งที่บอสใหญ่ TUF เห็นว่าเป็นบิ๊กมูฟสำคัญสำหรับบริษัทที่มียอดขายมหาศาลเป็นแสน ๆ ล้านแห่งนี้คือ ขอกลับมาโฟกัสในสิ่งที่ทำอยู่เดิมให้ดีที่สุด ทั้งเรื่องรสชาติ คุณภาพ แบรนดิ้ง รวมถึงเพิ่มสปีดค้นหานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อก้าวให้ทันกับโลกการค้ายุคใหม่

จากที่ผ่านมา TUF จะมีข่าวไปซื้อกิจการที่โน่นที่นี่ในต่างประเทศเพื่อเพิ่มสเกลธุรกิจด้วยเม็ดเงินมหาศาลทุกปี แน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่ TUF ที่สู้กับกระแส disrupt สู้กับโลกธุรกิจการค้าที่กำลังพลิกโฉมหน้า

ก่อนหน้านี้รับรู้กันดีว่าอุตสาหกรรมสื่อเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ถูกดิสรัปต์ โรงแรมที่พักจำเป็นต้องปรับตัวขนานใหญ่จากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนเดิมอีก

ส่วนแบงก์เจอทั้งศึกในศึกนอก ด้านหนึ่งต้องสู้กันเอง อีกด้านหนึ่งต้องคอยจับจ้องบริษัทระดับโลกที่พร้อมโดดเข้ามาชิงตลาดสินเชื่อ

ค้าปลีกที่พบปัญหาคนเดินดูมากกว่าซื้อ พอดูเสร็จก็กลับไปสั่งออนไลน์ที่บ้าน จะมีข้อยกเว้นแค่ศูนย์ยักษ์ ๆ ใจกลางกรุงที่ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาช่วยกอบกู้สถานการณ์

อยากได้อะไรก็สั่งจากออนไลน์ อยากกินอะไรก็เรียกไลน์แมน สั่ง Grab Bike เดี๋ยวเดียวก็ส่งถึงบ้าน

ยักษ์ ๆ ยังเหนื่อย !!!

แน่นอนว่าผู้บริโภคไม่ได้มีปัญหากับความเปลี่ยนแปลง เพราะได้รับความสะดวกสบาย แต่อาการไม่ดีคือคนค้าขาย สายป่านสั้น ไม่มีชื่อ ไม่มีแบรนด์ ไม่มีคนรู้จัก

อดีตผู้บริหารธุรกิจยักษ์ใหญ่ ซึ่งปัจจุบันผันมาเป็นที่ปรึกษาอย่างเต็มตัว อ่านปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับธุรกิจไทยที่มีแนวทางทำงานแบบเดิม ๆ

เราปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่ทัน ผู้บริหารจำนวนไม่น้อยอยู่ในวัยอาวุโส ก้าวไม่ทันกับโลกยุคใหม่ แต่มีบทบาทเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ ทำให้ตั้งตัวไม่ทัน

นอกจากโลกทุกวันนี้จะเปลี่ยนไปเร็วมาก ยังไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว น่าเป็นห่วงคือบรรดาเอสเอ็มอีของไทยซึ่งที่ผ่านมาอาจถือเป็นกลุ่มธุรกิจอาภัพที่สุด เพราะเหมือนตกอยู่ในหลืบมืด ๆ ตลอดเวลา แบงก์ก็ไม่ค่อยยอมจะปล่อยกู้

เพราะไม่มั่นใจในเครดิต ความรู้-โนว์ฮาวในมุมธุรกิจการค้าก็สู้คนอื่นไม่ได้ ส่วนใหญ่เริ่มต้นธุรกิจจากการเป็นลูกจ้าง อยากสร้างฐานะให้มั่นคง การตัดสินใจต่าง ๆ อาศัยประสบการณ์ในอดีต และสัญชาตญาณส่วนตัว เดิมการแข่งขันจำกัดอยู่แต่ในบ้านเรา แต่ปัจจุบันโลกการค้าเปิดประตูกว้าง อยากได้อะไรก็สั่งซื้อกัน รอไม่กี่วันสินค้าก็ส่งถึงประตูบ้าน

คู่แข่งขันของพี่น้องเอสเอ็มอีไทยที่น่าหวาดหวั่นที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน หากเป็นบรรดาพ่อค้าออนไลน์จากประเทศจีน ซึ่งฝีมือการค้าขายไม่เป็นรองใครในโลก และนับวันจะเพิ่มดีกรีความร้อนแรง

แผ่รัศมีเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง