Iceland กับการลงทุน

คอลัมน์ จัตุรัสนักลงทุน

โดย เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ

Iceland เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามติดอันดับต้น ๆ ของโลก เกาะไอซ์แลนด์เป็นดินแดนที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแอตแลนติกในแนว Arctic circle ใกล้ขั้วโลกเหนือ

“เรยาวิค” ถือเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุดในโลก ทำให้ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่มีภูเขาไฟจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ก็มีอากาศหนาวเย็นเต็มไปด้วยธารน้ำแข็ง จนได้รับฉายานามว่าดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง

ปัจจัยดังกล่าวทำให้ประเทศไอซ์แลนด์มีสถานที่ทางธรรมชาติที่สวยงามแปลกตา ทั้งทุ่งลาวา ภูเขาไฟ ธารน้ำแข็ง น้ำตกขนาดใหญ่จำนวนมาก น้ำพุร้อน ถ้ำน้ำแข็งสีสันงดงาม ทะเลสาบน้ำแข็ง ชายหาดสีดำ บ่อน้ำร้อนสีน้ำเงินแปลกตา แท่งหิน basalt เรียงกันงดงาม และที่ขาดไม่ได้คือแสงเหนือสีเขียวที่โด่งดังไปทั่วโลก

คนกลุ่มแรกที่มาตั้งรกรากในเกาะภูเขาไฟแห่งนี้ คือ พวกไวกิ้งจากประเทศนอร์เวย์ในปี ค.ศ. 874 พวกไวกิ้งมีความสามารถในการเดินเรือสูงมาก ชาวไอซ์แลนด์นำโดย Leif Ericson เป็นคนยุโรปกลุ่มแรกที่เดินทางไปถึงทวีปอเมริกาตั้งแต่ปี ค.ศ. 970 บริเวณริมชายฝั่งตะวันออกของประเทศแคนาดาในปัจจุบัน ก่อนที่ Christopher Columbus จะเดินทางถึงอเมริกาในปี ค.ศ. 1492 แต่ Leif Ericson ตั้งรกรากอยู่ได้ราว 50 ปีก็เดินทางกลับไอซ์แลนด์

ชาวไอซ์แลนด์เกือบเป็นชาวยุโรปชาติแรกที่สามารถขยายอาณาเขตไปยังทวีปอเมริกาอันกว้างใหญ่ก่อนโคลัมบัสถึง 500 ปี หากเทียบกับการลงทุนคงคล้ายกับนักลงทุนบางท่านที่เคยเฉียดรวยจากหุ้นหลายสิบเด้งในโลกการลงทุน การถือหุ้นอยู่เฉย ๆ รอเวลาให้หุ้นดี ๆ โตไปเรื่อย ๆ เป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่ทำไม่ได้

เนื่องจากไอซ์แลนด์ตั้งอยู่ระหว่างเปลือกโลก North America และ Eurasia ซึ่งเป็นเขตที่เปลือกโลกขยับออกจากกันประมาณปีละ 2-3 เซนติเมตร จึงทำให้เกิดแผ่นดินที่สั่นไหวอยู่เสมอ และมีภูเขาไฟจำนวนมาก ปัจจุบันมีภูเขาไฟถึง 5 แห่งที่พร้อมระเบิดได้ตลอดเวลา แต่ก็เป็นสิ่งที่ชาวไอซ์แลนด์ “คุ้นเคย” และ “อยู่กับความไม่แน่นอน” เหล่านี้ได้ ซึ่งจะคล้าย ๆ กับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

เราควรเข้าใจ “ความเสี่ยง” ที่ว่าตลาดหุ้นพร้อมจะตกหรือมีวิกฤตได้ตลอดเวลา วิกฤตจะมาเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้

แต่สิ่งที่นักลงทุนที่ดีควรรู้และเตรียมตัวเตรียมใจแต่เนิ่น ๆ คือ “เวลามีวิกฤต” เราควรทำอย่างไร และเราจะอยู่รอดได้อย่างไร น่าจะเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า

หลายคนคงรู้จักไอซ์แลนด์จากวิกฤตการเงิน “ซับไพรม” เนื่องจากเป็นหนึ่งในประเทศที่เกือบล้มละลายจากวิกฤตซับไพรมในปี ค.ศ. 2008 แต่การระเบิดของภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ในปี ค.ศ. 2010 อันโด่งดังที่ทำให้เครื่องบินในทวีปยุโรปบินไม่ได้เป็นสัปดาห์จากเขม่าควันภูเขาไฟ ส่งผลให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศไอซ์แลนด์

การท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์เติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ปี จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาไอซ์แลนด์เพิ่มจากปีละ 3 แสนคนก่อนปี ค.ศ. 2010 เป็นกว่า 2 ล้านคนในปัจจุบัน “การท่องเที่ยว” กลายเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้เป็นอันดับหนึ่งให้ไอซ์แลนด์แทนอุตสาหกรรมประมง ประเทศไอซ์แลนด์ฟื้นตัวจากเกือบล้มละลายในปี ค.ศ. 2008 เป็นประเทศเติบโตจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มากจนกระทั่งปัจจุบันไอซ์แลนด์ต้องใช้แรงงานต่างชาติมาช่วยงานในภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากประชากรไอซ์แลนด์มีแค่เกือบ 4 แสนคน แต่ต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคนในแต่ละปี

เหตุการณ์นี้คงคล้าย ๆ กับโอกาสในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่บางธุรกิจที่ในอดีตแทบล้มละลาย แต่บางครั้งเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ธุรกิจฟื้นตัว และเติบโตต่อเนื่องได้ในระยะยาวคล้าย ๆ ประเทศไอซ์แลนด์

ดังนั้น เราที่เป็นนักลงทุนหากเห็นโอกาสที่ว่าแล้ว “กล้าลงทุนหนัก ๆ” ในหุ้นหลายสิบเด้งนี้ บางทีการลงทุนที่ถูกที่ถูกเวลาเพียงแค่ครั้งเดียว ก็อาจจะทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงิน หรืออาจทำให้เปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาลเลยก็ได้

คนส่วนใหญ่มองว่าการระเบิดของภูเขาไฟเป็นสิ่งเลวร้ายน่ากลัว คงมีแค่คนจำนวนน้อยมาก ๆ ที่คิดต่างและเห็นโอกาสก่อนใคร ๆ


Happy investing