คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ
โดย อมร พวงงาม
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
วันก่อนเห็นหนังสือพิมพ์พาดหัว “บิ๊กตู่” ลั่นแก้รถติดใน 3 เดือนระบุชัดว่า ปัญหาหลัก คือ ถนนมีไม่พอใช้ ปริมาณรถมากขึ้น
สั่งเพิ่มเบี้ยตำรวจจราจรที่ทำงานหนัก และปรับความเร็วรถบนทางด่วนบางจุดเพิ่มขึ้น
เห็นข่าวแบบนี้ ในโซเชียลถล่มกันเละ
มีทั้งสบถ…เย้ยหยัน ไม่เชื่อว่าทำได้จริง
แต่ผมว่า น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้บริหารเริ่มเข้ามาแตะปัญหาหนักอกของคนทั้งประเทศ
ทำเลยครับ ทำตรงไหนได้ทำเลย อย่างน้อยได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน
ทุกวันนี้ “แหยง” กันไปหมดแล้ว ไม่ค่อยกล้าเดินทาง
ยิ่งวันไหนฝนถล่มกลางเมือง “นรก” ชัด ๆ
วันก่อนใช้เส้นทางจากราชประสงค์มาประชาชื่น
ไม่น่าเชื่อ ระยะทางไม่ถึง 20 กม.
ซัดเข้าไป 2 ชั่วโมงเต็ม นั่งนิ่ง ๆ บนรถเล่นเอาสะบักสะบอมกันเลยทีเดียว
แผนแก้ปัญหาจราจรของพลเอกประยุทธ์
มอง เรื่องแรกถนนไม่เพียงพอ ได้สั่งการมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมช่วยดำเนินการ
ตอนนี้กำลังตัดตรอกซอกซอยทะลุถนนใหญ่ ทะลวงทุกจุดที่เป็นทางตัน
เชื่อว่าน่าจะทำให้ รถวิ่งได้โฟร์มากขึ้น
เรื่องที่สอง ปริมาณรถมาก อันนี้ล่ะครับ…ปัญหาใหญ่
ทางออกยังไม่เห็นซะด้วย รถใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน
แต่รถเก่าไม่เคยเก็บออกจากถนน
รถยนต์บางคันสภาพไม่น่าใช่รถ แต่ยังต่อทะเบียนได้
เพราะฉะนั้น เรื่องลดปริมาณรถบนถนนต้องรีบ ชักช้าไม่ได้
ค่ายรถยนต์ขายรถในประเทศกันปีหนึ่ง 8-9 แสนคัน
เป็นอย่างนี้ต่อเนื่องกันมาหลายสิบปีแล้วครับ
ถึงวันนี้ปริมาณรถในถนนมีหลายสิบล้านคัน
รถที่เสียซ่อมไม่ได้ก็จอดเกะกะข้างถนน ใต้ทางด่วนบ้าง
ผมว่า นี่แหละอีกต้นเหตุของปัญหารถติด
เรื่องที่สาม เพิ่มเบี้ยตำรวจที่ทำงานหนัก
พอยต์นี้มีทั้งคนเห็นด้วย และคนหงุดหงิด
ที่เห็นด้วย คือ ตำรวจชั้นผู้น้อยทำงานหนัก สมควรได้ค่าตอบแทนสมน้ำสมเนื้อ
และรายได้ที่เพียงพอ อย่างน้อยทำให้ตำรวจจราจรรักศักดิ์ศรีตัวเองมากขึ้น
ไม่หลงใหลกับเงินสินบนเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนทำผิดกฎจราจร
ส่วนที่รับไม่ได้จริง ๆ คือ ผมว่าตำรวจมีความรู้ด้านวิศวกรรมจราจรน้อยเกินไป
บางครั้งการปฏิบัติหน้าที่ ไปปรับเปลี่ยนเส้นทางจราจรให้แตกต่างไปจากที่เราเคยใช้ประจำ
ยิ่งทำให้รถติดขัดหนักขึ้น และที่เลวร้ายสุดสุด คือ ขาด “จิตสำนึก”
วันก่อนผมไปงานครบรอบ 30 ปี โครงการถนนสีขาวของโตโยต้า
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ คุณ “วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์” พูดได้น่าฟังมาก
บอกว่า ปัญหาจราจรและอุบัติเหตุขึ้นอยู่ที่วินัยคนขับรถ และจิตสำนึกตำรวจ
ยกตัวอย่าง ตำรวจทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจราจรจับกุมคนทำผิด
โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ บางพื้นที่ห้ามขึ้นสะพาน หรือลงอุโมงค์
แทนที่จะป้องกันไม่ให้ทำผิด โดยปรากฏตัวให้เห็นก่อน
กลับเลือกไปรอดักจับหลังจากทำผิดแล้ว
นั่นแหละ ! ต้นตอของการเกิดอุบัติเหตุ
เรื่องสุดท้าย ปรับเพิ่มความเร็วบนถนนหรือทางด่วน
เรื่องนี้ผมชูมือเห็นด้วยสองข้างเลย
กฎหมายจราจรที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ เขียนกันมาตั้งแต่ปี 2522
ผ่านมาเกือบ 40 ปีแล้วครับ โลกเขาไปถึงไหนแล้ว
ความเร็วบนไฮเวย์กำหนด 90 กม./ชม.
ผมถามจริง ๆ ตำรวจเองขับได้มั้ยครับ
ตอบได้เลย ไม่มีทาง รถราเดี๋ยวนี้สมรรถนะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ
ความเร็ว 120-130 กม./ชม. ยังควบคุมกันได้สบาย ๆ
เดินทางไกลโปรดเห็นใจกันด้วยครับ
ยิ่งบนทางด่วนหรือโทลล์เวย์ สังเกตให้ดีครับ มี 2 จุดครับ ตำรวจยั้วเยี้ยเลย
หน้าสนามบินดอนเมืองหนึ่งจุด อีกจุดบูรพาวิถีตรงด่านรับบัตรเก็บเงิน
รู้ใช่ไหม ? เขาไปยืนทำอะไรกัน
แก้ได้แก้เถอะครับ ถ้าไม่รีบจริง
ผมเชื่อว่าหลายคนคงวิ่งข้างล่าง ไม่ขึ้นยกระดับแน่ ๆ
ส่วนที่ต้องเร่งรณรงค์อีกปัญหา คือ รถขับช้าวิ่งขวา
ตอนนี้ประเทศไทย ต้องเปลี่ยนมาแซงซ้ายกันหมดแล้ว
เคสขับช้าคาช่องขวาถ้าแก้ได้จริง เราคงเดินทางได้เร็วขึ้นกว่านี้อีกเยอะ
อีกประเด็นที่นายกฯไม่ได้พูด
แต่ผมอยากนำเสนอ จุดก่อสร้างทั้งหลายโปรดคืนพื้นที่ถนนให้คนใช้รถบ้างเถอะ
ไม่ได้ขอทุกวัน เอาแค่ช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวก็พอ
รถมันเยอะครับ วิ่งกันไป 4-5 ช่องทาง
บีบเหลือเลนเดียว ลองใช้สมองตรองดูครับ