เกมใหม่ “บิ๊กดาต้า” “รู้จักเรา” ดีกว่า “ตัวเรา”

คอลัมน์ สามัญสำนึก

โดย สุดใจ ชาญชาตรีรัตน์

โลกยุคใหม่เรื่องข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคถือเป็นขุมทรัพย์ที่สามารถสร้างโอกาสและธุรกิจใหม่ได้อย่างไม่คาดคิด

“บิ๊กดาต้า” กลายเป็นคำฮอตฮิตของทุกวงการ และที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือดเวลานี้ เห็นจะไม่พ้นอุตสาหกรรมการเงิน ที่มีทั้งผู้เล่นดั้งเดิมเป็นธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ หรือผู้เล่นใหม่ที่จากหลายวงการขอมาร่วมแจม แต่ที่เขย่าขวัญมากก็คือ บรรดา TECH Company ยักษ์ใหญ่อย่างอาลีบาบา (อาลีเพย์) หรือเทนเซ็นต์ (วีแชท)

ดังนั้น การพลิกเกมธุรกิจของแบงก์พาณิชย์ นอกจากลงทุนระบบไอทีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ตอนนี้ทุกสถาบันการเงินก็กำลังมุ่งสู่ถนน “บิ๊กดาต้า” ในสไตล์ของแต่ละแบงก์ อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ก็ซุ่มตั้งทีมทำเรื่อง digital lending โดยคว้าตัว “กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร” หัวหน้าทีม ExpresSo ของ ปตท. ยักษ์ใหญ่พลังงานของประเทศ มาร่วมทีมธนาคาร ภายใต้การดูแลของซีอีโอ “อาทิตย์ นันทวิทยา”

พร้อมระดมผู้เชี่ยวชาญด้าน data analytics อีกหลายคนเข้าร่วมทีม ที่เรียกกันภายในว่า ทีม “10 X” หมายถึงทีมที่จะทำให้ธนาคารสามารถโตแบบก้าวกระโดดแบบ 10 เท่าตัว สะท้อนถึงความคาดหวังและเกมการแข่งขันของแบงก์ในอนาคตได้เป็นอย่างดี

และสัปดาห์ที่ผ่าน ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK ก็เพิ่งประกาศตั้ง 2 ฝ่ายใหม่ คือ enterprise data analytics department และ digital lending department ดูแลการสร้างความสามารถด้านการทำบิ๊กดาต้า และเดินหน้าสู่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล หรือ data-driven bank

ขณะที่แบงก์ขนาดกลางอย่างธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ก็ซุ่มพัฒนาระบบบิ๊กดาต้ารุดหน้าไปไม่น้อย และเป็นแบงก์พาณิชยแห่งแรกที่ประกาศตัวว่า พร้อมให้สินเชื่อแพลตฟอร์ม “digital lending” ทั้งได้เข้าไปเจรจากับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อนำเสนอโมเดล และขอให้ปลดล็อกกฎกติกา เพื่อที่ธนาคารจะสามารถเข้าสู่สมรภูมิรบใหม่ได้

การปล่อยกู้ที่ไม่ได้ดูจากสลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ แต่ดูจากข้อมูลด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้แอปพลิเคชั่นต่าง ๆ เช่น คนขับรถแท็กซี่ หรือจักรยานยนต์ผ่านแอปเรียกรับส่งผู้โดยสาร รับส่งอาหาร เมื่อเชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนตัวด้านอื่น ๆ จะสามารถวิเคราะห์ระดับความเสี่ยงเพื่อปล่อยกู้ได้ เป้าหมายของธนาคารก็คือ การขยายสู่กลุ่มคนที่เดิมไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อธนาคาร

“ฐากร ปิยะพันธ์” ประธานกรรมการกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงกิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีฯย้ำว่า เกมใหม่แบงก์จะแพ้-ชนะอยู่ที่ “บิ๊กดาต้า” ที่จะสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญให้กับอุตสาหกรรมการเงิน และธนาคารจะกลายเป็น “data company”

“แบงก์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีข้อมูลเยอะมาก แต่ปัจจุบันยังถือว่าใช้ข้อมูลน้อยมาก เรายังใช้ไม่ถึง 10% ของดาต้าที่มีอยู่เลย” ฐากรกล่าว

หลังจากธนาคารกรุงศรีฯได้อิมพลีเมนต์ระบบ big data เก็บทุกพฤติกรรมของลูกค้าที่เข้าสู่ธนาคารทุกช่องทาง เช่น การเข้าใช้เฟซบุ๊ก การใช้โมบายแบงกิ้ง การเข้าเว็บไซต์ การโทร.หาคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น

รวมทั้งเชื่อมข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต/เดบิต โมบายแบงกิ้งของลูกค้า กับมิติข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้เห็นพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้าแต่ละวัน แต่ละช่วงเวลา แต่ละสถานที่ มีความเชื่อมโยงกันอย่างไร ทำให้ต่อไปธนาคารจะเข้าใจและรู้จักลูกค้าจนทำแคมเปญกับพันธมิตรร้านค้าต่าง ๆ ส่งโปรโมชั่นถึงลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลได้

และเกม “บิ๊กดาต้า” ก็อาจทำให้ธนาคาร หรือธุรกิจต่าง ๆ “รู้จักตัวเรา มากกว่าที่เรารู้จักตัวเอง”