สงครามการค้ายืดเยื้อ…อย่าวางใจ

แฟ้มภาพ

บทบรรณาธิการ

 

ยังคาดเดาได้ยากว่าสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา กับจีนที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น จะจบลงที่การเจรจรา หรือบานปลายฉุดเศรษฐกิจโลกรวมทั้งเศรษฐกิจไทยที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวให้ดิ่งลงอีก

แม้หลายฝ่ายจะชี้ว่าภาคการส่งออกของไทยน่าจะได้อานิสงส์ แต่ไม่ควรประมาทวางใจ เพราะถ้าหากสงครามทางการค้าระหว่าง 2 มหาอำนาจยืดเยื้อ นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจโลกแล้ว ยังเป็นปัจจัยลบที่จะเข้ามากระทบเศรษฐกิจไทยโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง

หน่วยงานภาครัฐกับเอกชนไทยจึงต้องเกาะติดสถานการณ์และเตรียมปรับตัวรองรับล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดปฏิบัติการกีดกันทางการค้ารอบใหม่

ที่สหรัฐเปิดเกมด้วยการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีนร่วม 6,000 รายงาน มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.5 ล้านล้านบาท ทำลายสถิติการตั้งกำแพงภาษีสูงสุดและรายการสินค้ามากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

มีผลตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2561 โดยจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% ก่อน และจะจัดเก็บเพิ่มเป็น 25% ช่วงต้นปี 2562 ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการประกาศตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเช่นเดียวกัน

พร้อมขู่จะใช้มาตรการอื่น ๆ ควบคู่กับมาตรการทางภาษีก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในตลาดการค้าโลก ทั้งยังดับความหวังของนานาประเทศที่จะได้เห็นทั้ง 2 ฝ่ายเปิดโต๊ะเจรจาลดความขัดแย้ง

เพราะล่าสุด จีนประกาศเลื่อนการพบปะหารือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ 2 ประเทศ ออกไปไม่มีกำหนด จากเดิมมีกำหนดนัดหมายเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างจีน-สหรัฐ ปลายเดือนกันยายนนี้

จึงน่าห่วงว่าข้อพิพาทของมหาอำนาจทั้ง 2 ประเทศจะลุกลาม จุดชนวนให้สงครามทางการค้ายิ่งดุเดือดรุนแรง ส่งผลกระทบด้านลบต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก

แม้นักวิเคราะห์หลายสำนักรวมทั้งผู้ประกอบการส่งออกจะมองว่า สงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐจะส่งผลดีกับไทยมากกว่าผลเสีย

เนื่องจากสินค้าไทยหลายรายการโดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเกษตรและผลิตภัณฑ์จากสัตว์จะมีโอกาสเข้าไปจำหน่ายในตลาดสหรัฐ ทดแทนสินค้าที่นำเข้าจากจีนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องระวังความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นกับตลาดเงินตลาดทุนทั้งระบบด้วย

รัฐและเอกชนไทยจึงต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้า ที่สำคัญ อย่าวางใจหรือมองในเชิงบวกมากเกินไป เพราะหากสงครามทางการค้าขยายวงเป็นสงครามค่าเงิน กดดันตลาดเงิน
และเศรษฐกิจโลก จะได้ตั้งการ์ดรับ ปรับตัวลดผลกระทบได้ทันการ