คอลัมน์ สามัญสำนึก
โดย สมปอง แจ่มเกาะ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
คึกคักขึ้นมาทันตาเห็นเลยทีเดียว ! หลัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้จดปากกาลงนามในประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2561 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการคลายล็อกทางการเมือง ก่อนจะก้าวไปสู่การเลือกตั้ง
ระฆังยกแรกดังขึ้น พรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ต่างลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวกันอย่างหนาตา ทั้งจัดประชุม เลือกกรรมการบริหารพรรค
ภาพคนเด่นคนดังพรรคต่าง ๆ เริ่มก้าวออกมายืนอยู่หน้าฉาก ยืนอยู่ในสปอตไลต์ มีให้เห็นแทบทุกวัน
แต่ที่ฮือฮามากกว่าใครเพื่อนเห็นจะเป็น จู่ ๆ “ลุงตู่” ประกาศเปิดเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ ตามต่อด้วยอินสตาแกรม(ไอจี) ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ ในเวลาไล่เลี่ยกัน
ไม่รู้ว่าเป็นการหาเสียงหรือไม่ !
แต่ท่านนายกฯให้เหตุผลว่า เพื่อเป็นช่องทางสำหรับการสื่อสารนโยบาย การทำงาน รับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากพี่น้องประชาชน
งานนี้มีคนติดตามเข้าไปไลก์เขียนคอมเมนต์นับหมื่นนับแสนกันเลยทีเดียว
มีทั้งคนชอบ คนไม่ชอบ นานาจิตตัง
ขณะที่เวทีการเมืองกำลังครึกครื้น แต่อีกด้านหนึ่ง สัญญาณเศรษฐกิจในภาพรวมเริ่มมีท่าทีว่าจะไม่สดใส หลัก ๆ มาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามการค้าของอภิมหาอำนาจสหรัฐ-จีน ที่ยังร้อนระอุและมีแนวโน้มจะไม่จบลงง่าย ๆ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น
แน่นอนว่าส่งออกไทยคงต้องเหนื่อยหนักมากขึ้น เพราะนี่คือปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม
ล่าสุด ผู้ประกอบการส่งออกเล็กใหญ่ล้วนมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ตัวเลขเป้าส่งออก 8% ปี 2562 ที่ท่านรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และกระทรวงพาณิชย์วาดหวังไว้ คงยากที่จะถึงฝั่งฝัน
ส่วนเศรษฐกิจในประเทศ แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจะพยายามป่าวประกาศว่า เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น จีดีพีเริ่มโงหัวขึ้นแล้ว โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ตรงกันข้ามกับมุมมองของคนทำมาค้าขาย ร้านรวงที่ต่างโอดครวญว่า ฝืดเคือง แม้แต่แฟ้บ สบู่ ยาสีฟัน ของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ยังขายไม่ดีเลย
สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ใคร ๆ ต่างก็ว่าดี ตอนนี้ก็เริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ตัวเลขลดลงอย่างน่าตกใจ
ที่สำคัญ ตอนนี้บรรดาเกษตรกร ชาวไร่ชาวสวนชั้นรากหญ้ากำลังปวดหัวกับราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำที่ตามหลอกหลอนทุกฤดูเก็บเกี่ยว ที่หนักกว่าใครเพื่อนก็เห็นจะเป็น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อ้อย มะพร้าว ซึ่งวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังหาทางออกไม่เจอ
ส่วนพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพด มันสำปะหลัง แม้จะขายพอได้ราคา แต่ก็เหมือน “บุญมีแต่กรรมมาบัง” เพราะเจอข้าวโพดนอกมาถล่ม ขณะที่มันสำปะหลังก็มีปัญหาโรคระบาด
สำหรับข้าว (นาปี) ตอนนี้ยังไม่เก็บเกี่ยว แต่อีกไม่นานคงรู้ว่า ราคาจะดีหรือไม่ เมื่อสถานการณ์ราคาพืชผลทางการเกษตรไม่ดี กำลังซื้อของชนชั้นรากหญ้าก็มีปัญหา จึงไม่แปลกใจที่รัฐบาลจะพยายามอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาช่วยผ่านสารพัดโครงการเป็นระยะ ๆ
อีกด้านหนึ่ง ท่านรองฯสมคิดก็ต้องเดินสายไปยังกระทรวงต่าง ๆ ติดตามงาน ไล่จี้โครงการการลงทุนเล็กใหญ่แทบทุกอาทิตย์
…นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวส่วนหนึ่งของปัญหาที่บ้านเมืองกำลังประสบอยู่ และรอการแก้ไข
24 กุมภาพันธ์ปีหน้า จะเลือกใครดี…ไม่แน่ หลังเลือกตั้ง คนไทยอาจจะมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก็ได้