แก้ปมของแสลงแจงบัญชีทรัพย์สิน

บทบรรณาธิการ

เวลาล่วงเลยมา 3 สัปดาห์แล้ว นับจากราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่อง กำหนดตำแหน่งของเจ้าพนักงานของรัฐ ซึ่งจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 102 พ.ศ. 2561 การยื่นใบลาออกจากตำแหน่งของผู้อยู่ในข่ายต้องแจงบัญชีทรัพย์สิน ยังมีตามมาไม่หยุด

โดยเฉพาะการไขก๊อกลาออกจากตำแหน่งของนายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภามหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดแม้แต่ปรมาจารย์ทางกฎหมายอย่าง นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (มรร.) ก็ลาออกจากตำแหน่งนายกสภา มรร. มีผลเมื่อ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

แม้เหตุผลของการลาออกจะไม่ได้มาจากไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลทรัพย์สินในมือ แต่เป็นเพราะประกาศดังกล่าวก่อให้เกิดความยุ่งยาก จุกจิก น่ารำคาญ ตามเหตุผลที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งข้อสังเกต หลังนายกสภามหาวิทยาลัยหลายแห่งออกมาแสดงความอึดอัดแต่หลายฝ่ายยังข้องใจ

เพราะในสายตาสาธารณชนมีทั้งฝ่ายที่มองปรากฏการณ์ดังกล่าวอย่างเข้าใจ และเห็นว่าไม่น่าจะมีประเด็นเรื่องความไม่โปร่งใส กับอีกฝ่ายหนึ่งมองในทางตรงกันข้ามในทำนอง ถ้าสุจริตจริงและไม่มีอะไรแอบแฝง ก็ควรแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการแจงบัญชีทรัพย์สินตามกฎกติกาที่วางไว้

ขณะเดียวกันก็ชี้ว่า กรณีปัญหารวมทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จนกลายเป็นประเด็นข้อถกเถียงถูกจุดกระแสขึ้นในแวดวงการศึกษา แหล่งรวมปูชนียบุคคล ครูบาอาจารย์ ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิ ที่คนส่วนใหญ่มีความศรัทธาเชื่อมั่น ดังนั้นบุคลกรในสถาบันการศึกษาจึงน่าจะเป็นทั้งแหล่งรวมองค์ความรู้ ความดี เป็นต้นในการประพฤติ ปฏิบัติให้หน่วยงาน องค์กรอื่น ๆ สามารถยึดเป็นแบบอย่างได้

แต่ถ้ามองว่าการแจงบัญชีทรัพย์สินเป็นของแสลง ก็อาจเกิดพฤติกรรมตามอย่าง ทำให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่รัฐ อ้างเหตุเรื่องการสร้างภาระ ปัญหายุ่งยาก จุกจิก ฯลฯ ขอยกเว้นไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินบ้าง จะเกิดปมปัญหากกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย

ป.ป.ช.ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมความคิดเห็น และประเด็นข้อโต้แย้งเกี่ยวกับประกาศฉบับดังกล่าวจากหลายฝ่าย เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา จึงต้องดำเนินการทุกกระบวนการขั้นตอนด้วยความรอบคอบรัดกุม ยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก


ที่สำคัญ ต้องระวังไม่ให้การปรับแก้ไขประกาศทำให้เกิดความหละหลวมมีช่องโหว่ สวนทางนโยบายปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นส่วนรวมและประเทศชาติเสียหายจะยิ่งเสียหาย