กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ อาร์เซ็ปปิดรอบเจรจาในไทยปีหน้า

คอลัมน์ ช่วยกันคิด

โดย อรมน ทรัพย์ทวีธรรม

ในการประชุมผู้นำกลุ่มความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP) หรืออาร์เซ็ป ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 ณ สิงคโปร์ มีสัญญาณที่ดี เริ่มเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์แล้วว่า การเจรจาอาร์เซ็ปซึ่งเปิดหารือกันมานานตั้งแต่ปี 2556 น่าจะสามารถสรุปผลและปิดรอบได้ในปีหน้าที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นปีที่ไทยเป็นประธานอาเซียน

โดยผู้นำอาร์เซ็ปทั้ง 16 ประเทศ (อาเซียน ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมแสดงความยินดีที่การเจรจาในปี 2561 มีความก้าวหน้าที่สำคัญ และก้าวเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการเจรจาแล้ว จึงมีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะสรุปผลการเจรจาทุกเรื่อง และปิดรอบให้ได้ในปี 2562

โดยมุ่งหวังให้อาร์เซ็ป เป็นความตกลงการค้าเสรีที่จะช่วยลดอุปสรรคทางการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ครอบคลุมกฎเกณฑ์การค้าในทุกมิติ ที่ประเทศสมาชิกจะได้รับผลประโยชน์ร่วมกันอย่างสมดุล โดยเฉพาะท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโลกที่ท้าทาย และบรรยากาศการตอบโต้ทางการค้า

ไทยซึ่งรับไม้ต่อจากสิงคโปร์ ในฐานะประธานอาเซียน และประธานการประชุมรัฐมนตรีอาร์เซ็ป ในปี 2562 จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนและผลักดันให้การเจรจาอาร์เซ็ปบรรลุความสำเร็จให้ได้ในปีหน้า โดยเฉพาะการทำหน้าที่ผู้ประสานงาน หาทางออก และท่าทีร่วมในระหว่างประเทศสมาชิกที่ยังมีความเห็นต่าง

ตลอดจนกำกับดูแลติดตามความคืบหน้าของการเจรจารอบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นซึ่งคาดว่านักเจรจาของอาร์เซ็ปทั้งระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส และระดับรัฐมนตรี คงจะต้องพบกันและประชุมกันให้บ่อยขึ้น อาจจะเดือนเว้นเดือน หรือทุกเดือน จากเดิมที่ 3-4 เดือนจะประชุมร่วมกันที เพื่อหาข้อสรุปการเจรจาส่วนที่เหลือ ทั้งการปิดดีลการเจรจาเปิดตลาดการค้าสินค้า บริการ และการลงทุน และการสรุปกฎเกณฑ์การค้าใน 13 ข้อบทที่ยังเหลืออยู่ (อาทิ การแข่งขัน, พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, ทรัพย์สินทางปัญญา) จากปัจจุบันที่สรุปได้แล้ว 7 ข้อบท เช่น มาตรการสุขอนามัยพืชและสัตว์, กฎระเบียบทางเทคนิค, การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ และความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ เป็นต้น

ทั้งนี้ หากการเจรจาความตกลงอาร์เซ็ปบรรลุผลสำเร็จและมีผลใช้บังคับ คาดว่าไทยจะได้ประโยชน์ทั้งจากประเทศคู่ค้าเปิดตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตลาดเพิ่มเติมให้ไทยจากกรอบความตกลงการค้าเสรีที่ไทยมีอยู่กับอินเดีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

และจากกฎเกณฑ์การค้าของสมาชิก 16 ประเทศ ที่จะต้องปรับให้สอดคล้อง ได้มาตรฐาน โปร่งใส และอำนวยความสะดวกทางการค้าเพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาค เนื่องจากอาร์เซ็ปมีจีดีพีรวมกันกว่า 25.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 28 ของโลก มีประชากรรวมกัน 3,560 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของประชากรโลก มีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึง 10.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 29 ของการค้าโลก

เมื่อปี 2560 ไทยส่งออกไปยัง 15 ประเทศสมาชิกอาร์เซ็ป ถึง 1.345 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับร้อยละ 56.8 ของการส่งออกของไทย และนำเข้าจากประเทศสมาชิกอาร์เซ็ป 1.343 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับร้อยละ 60.7 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดของไทย