คุมราคายา-ค่าบริการต้องทำจริง

บทบรรณาธิการ

ประเด็นการควบคุมราคายาและเวชภัณฑ์กับค่ารักษาพยาบาลถูกหยิบยกขึ้นวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง หลังคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ให้นำยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เข้าอยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม

แม้ผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนได้ส่วนเสียจะมีมุมมองที่แตกต่าง โดยตัวแทนภาคเอกชนอย่างผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนคัดค้านไม่เห็นด้วย ขณะที่ประชาชนทั่วไปตลอดจนสมาคม มูลนิธิตัวแทนผู้บริโภค ฯลฯ ประสานเสียงสนับสนุนและต้องการให้รัฐบาลผลักดันนโยบายดังกล่าวให้เป็นจริง

อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นอีกนานกว่าจะเห็นผล เพราะลำพังควบคุมราคายาซึ่งมีอยู่นับพันนับหมื่นรายการ การสำรวจรวบรวมจัดทำบัญชีจึงไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการอีกจิปาถะ

ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของรัฐบาลรวมทั้ง กกร.ว่าหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาจุดกระแสแค่ชั่วครั้งชั่วคราว หรือมีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนตามข้อร้องเรียนของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนเนื่องจากแนวคิดดังกล่าวเป็นประเด็นที่ประชาชนกับองค์กรเครือข่ายผู้บริโภคพยายามผลักดันนับครั้งไม่ถ้วนแต่สุดท้ายมักเงียบหาย ครั้งนี้จึงมีความเป็นไปได้ที่นโยบายควบคุมราคายา ค่าบริการจะล่มกลางคันอีก

เพราะแม้ประชุม กกร.จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาถึงแนวทางการควบคุมดูแลราคายา ค่ารักษาพยาบาล ตลอดจนค่าบริการทั้งระบบในระยะยาว ประกอบด้วย ตัวแทนหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการค้าภายใน กระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชน สมาคมประกันชีวิตไทย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ฯลฯ แต่กระแสคัดค้านจากผู้ประกอบการที่ยังมีต่อเนื่องทำให้ภาครัฐต้องคิดหนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์การเมืองที่อยู่ในช่วงฝุ่นตลบ เพราะแม้กำหนดวันการเลือกตั้งยังไม่ชัดเจนแต่ทุกภาคส่วนมั่นใจว่ากำลังจะมาถึง การเมืองจึงอาจเป็นตัวแปรและกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดว่าจะเดินหน้าผลักดันขึ้นบัญชียา คุมเข้มค่าบริการหรือใช้วิธีซื้อเวลาลดแรงต้าน

รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง กกร.ซึ่งหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพิจารณาในการประชุมวาระแรก ภายใต้กฎเหล็กฉบับใหม่ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 จึงต้องพิสูจน์ฝีมือในการควบคุมดูแลราคายา

และค่าบริการให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม ด้วยการสร้างผลงานให้ประจักษ์ ยึดหลักผลประโยชน์ส่วนรวมให้ธุรกิจอยู่ได้ ขณะที่ค่ายาและเวชภัณฑ์ กับค่ารักษาพยาบาลก็อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นธรรม ไม่ขูดรีดจนชาวบ้านเดือดร้อน