บทบรรณาธิการ
ประเด็นการควบคุมราคายาและเวชภัณฑ์กับค่ารักษาพยาบาลถูกหยิบยกขึ้นวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง หลังคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ให้นำยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เข้าอยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
แม้ผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนได้ส่วนเสียจะมีมุมมองที่แตกต่าง โดยตัวแทนภาคเอกชนอย่างผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนคัดค้านไม่เห็นด้วย ขณะที่ประชาชนทั่วไปตลอดจนสมาคม มูลนิธิตัวแทนผู้บริโภค ฯลฯ ประสานเสียงสนับสนุนและต้องการให้รัฐบาลผลักดันนโยบายดังกล่าวให้เป็นจริง
อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติเรื่องนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นอีกนานกว่าจะเห็นผล เพราะลำพังควบคุมราคายาซึ่งมีอยู่นับพันนับหมื่นรายการ การสำรวจรวบรวมจัดทำบัญชีจึงไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับค่ารักษาพยาบาลและค่าบริการอีกจิปาถะ
ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นของรัฐบาลรวมทั้ง กกร.ว่าหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาจุดกระแสแค่ชั่วครั้งชั่วคราว หรือมีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนตามข้อร้องเรียนของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนเนื่องจากแนวคิดดังกล่าวเป็นประเด็นที่ประชาชนกับองค์กรเครือข่ายผู้บริโภคพยายามผลักดันนับครั้งไม่ถ้วนแต่สุดท้ายมักเงียบหาย ครั้งนี้จึงมีความเป็นไปได้ที่นโยบายควบคุมราคายา ค่าบริการจะล่มกลางคันอีก
เพราะแม้ประชุม กกร.จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาถึงแนวทางการควบคุมดูแลราคายา ค่ารักษาพยาบาล ตลอดจนค่าบริการทั้งระบบในระยะยาว ประกอบด้วย ตัวแทนหน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมการค้าภายใน กระทรวงสาธารณสุข ตัวแทนผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชน สมาคมประกันชีวิตไทย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ฯลฯ แต่กระแสคัดค้านจากผู้ประกอบการที่ยังมีต่อเนื่องทำให้ภาครัฐต้องคิดหนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์การเมืองที่อยู่ในช่วงฝุ่นตลบ เพราะแม้กำหนดวันการเลือกตั้งยังไม่ชัดเจนแต่ทุกภาคส่วนมั่นใจว่ากำลังจะมาถึง การเมืองจึงอาจเป็นตัวแปรและกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดว่าจะเดินหน้าผลักดันขึ้นบัญชียา คุมเข้มค่าบริการหรือใช้วิธีซื้อเวลาลดแรงต้าน
รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง กกร.ซึ่งหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นพิจารณาในการประชุมวาระแรก ภายใต้กฎเหล็กฉบับใหม่ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 จึงต้องพิสูจน์ฝีมือในการควบคุมดูแลราคายา
และค่าบริการให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม ด้วยการสร้างผลงานให้ประจักษ์ ยึดหลักผลประโยชน์ส่วนรวมให้ธุรกิจอยู่ได้ ขณะที่ค่ายาและเวชภัณฑ์ กับค่ารักษาพยาบาลก็อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นธรรม ไม่ขูดรีดจนชาวบ้านเดือดร้อน