วิกฤตหมอกควันพิษ แก้ที่ต้นเหตุ

บทบรรณาธิการ

วิกฤตหมอกควันพิษที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เทียบกับปีก่อน ๆ สภาพปัญหาซึ่งรุนแรงกว่าและส่งผลกระทบมากกว่า กระแสการตื่นตระหนกและความวิตกกังวลของคนกรุงจึงเกิดขึ้นในวงกว้าง

ภาพคนกรุงสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นควัน จนทำให้หน้ากากอนามัย หน้ากากป้องกันควันพิษขาดตลาด ไม่ใช่แค่สะท้อนถึงความหวั่นเกรงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยเท่านั้น แต่เหมือนส่งสัญญาณกลาย ๆ ถึงความไม่เชื่อมั่นในการบริหารจัดการปัญหาของภาครัฐ ยิ่งกดดันให้รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็ว

ล่าสุด ข้อมูลจากการประชุมหารือของหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะผลการศึกษาวิเคราะห์ของกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบุว่า หมอกควันพิษฝุ่นละอองไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ที่เกินมาตรฐาน กระทบสุขภาพและอนามัยหลัก ๆ มาจากยานพาหนะบนท้องถนน

รวมทั้งควันพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม และการเผาขยะมูลฝอย โจทย์ใหญ่คือต้องลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ที่มาจากแหล่งก่อมลพิษข้างต้นให้ลดลงมากที่สุด

ขณะเดียวกันเจาะลึกลงไปพบว่า กิจการขนส่งทางถนน คือ ตัวการใหญ่ที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 จำนวน 7.73 กิโลตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 54.3 เกินกว่าครึ่ง

ในจำนวนนี้มาจากรถยนต์ดีเซลมากที่สุด รองลงไปเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถบัสขนาดใหญ่ ยิ่งเห็นปมปัญหาชัด เท่ากับรู้สาเหตุซึ่งเป็นที่มาของวิกฤตหมอกควันพิษ

รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงน่าจะโฟกัสไปที่ต้นตอของปัญหา ควบคู่กับกำหนดแผนและมาตรการในการป้องกันแก้ไข พร้อมจัดลำดับความสำคัญให้การแก้ปัญหาหมอกควันพิษเป็นวาระเร่งด่วนระดับชาติ

อย่างไรก็ตาม นอกจากแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ด้วยการฉีดล้างถนน ทำฝนเทียม ควบคุมฝุ่นละอองจากโครงการก่อสร้าง กวดขันจับกุมรถควันดำแล้ว การแก้ปัญหาหมอกควันพิษอย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งแนวทางปฏิบัติ การออกระเบียบกฎหมาย และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเฉียบขาด ก็ต้องทำอย่างจริงจังด้วย

สำคัญที่สุด คือ การสร้างภูมิคุ้มกัน โดยกำหนดมาตรฐานเครื่องยนต์ น้ำมันเชื้อเพลิง ด้วยการสนับสนุนส่งเสริมการใช้ยานพาหนะที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น

ทั้งหมดนี้แม้ต้องใช้เวลา และต้องแลกมาด้วยการทุ่มเงินลงทุนในระดับที่สูงก็จำเป็นต้องทำ เพราะในระยะยาวจะยั่งยืน และคุ้มค่ามากกว่า

 

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!