การเลือกตั้งครั้งแรกในรอบกว่า 8 ปี ประกาศอย่างเป็นทางการ หลังพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้เมื่อ 23 มกราคม
24 มีนาคม 2562 คือวันเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กฎกติกาใหม่ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด ได้รับการขานรับจากทุกภาคส่วน เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ฯที่ความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ท่ามกลางปัจจัยลบและความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
อย่างไรก็ตาม การเมืองภายในประเทศจะยังถูกจับตาต่อเนื่องกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จ มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และการแถลงนโยบาย ทั้งหมดนี้หากเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ราบรื่น จะทำให้นักธุรกิจนักลงทุน ประชาชนทั่วไปเชื่อมั่น หนุนตลาดหุ้น การลงทุน รวมทั้งทิศทางเศรษฐกิจให้เติบโตในทิศทางที่เป็นบวก
การเมืองนิ่ง ทุกขั้นตอนดำเนินไปตามครรลองประชาธิปไตย จึงเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เฉพาะคนไทยเท่านั้นที่คาดหวัง แม้แต่นักลงทุน นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ต้องการเห็น ช่วงรอยต่อ
การปรับโหมดทางการเมืองจึงเป็นช่วงที่ไทยทั้งชาติต้องช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดี เสริมภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นประเทศไทยในสายตาชาวโลก
ไทม์ไลน์การเลือกตั้งที่ กกต.ระบุชัด เริ่มจากการเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และแบบบัญชีรายชื่อ ระหว่าง 4-8 กุมภาพันธ์ จากนั้น 15 กุมภาพันธ์ จะประกาศรายชื่อผู้สมัคร ต่อด้วยวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ระหว่าง 4-16 มีนาคม และเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มีนาคมคือสิ่งที่คนไทยตั้งตารอ
ส่วนวันประกาศผลเลือกตั้ง และการรับรองผลการเลือกตั้ง แม้ กกต.ยังไม่ได้กำหนดแต่ระบุว่าจะประกาศโดยเร็ว เท่ากับมีกรอบเวลาการก้าวสู่ความเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์แบบชัดเจนมากขึ้น และหากเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหวังภายในครึ่งปีแรก ปีนี้จะมีรัฐบาลใหม่เข้ารับไม้ต่อจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาโฉมหน้าของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งทิศทางนโยบายในการบริหารจัดการประเทศแม้ยังคาดเดาได้ยาก แต่หากทุกฝ่ายยอมรับการตัดสินใจ และเคารพทุกคะแนนที่มาจากประชาชน ทำตาม
กฎกติกาไม่ฝ่าฝืน พรรคไหนขั้วไหนจะคว้าชัยคงไม่สำคัญเพราะประเทศจะเดินหน้าได้ ไม่ติดบ่วงข้อพิพาทขัดแย้งเหมือนที่ผ่านมา
โจทย์ข้อใหญ่ที่ว่า ทำอย่างไรให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส ได้คนเก่ง คนดี มีคุณธรรม มาทำงาน เป็นตัวแทนคอยเป็นปากเป็นเสียง ต้องแก้โดยประชาชน เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง ตลอดจนนักธุรกิจ นักลงทุน ต่างทำตามบทบาทหน้าที่ พร้อมถอดบทเรียนอดีตไม่ให้ผิดพลาดซ้ำ นำพาประเทศไปข้างหน้า ปลุกเครื่องยนต์เศรษฐกิจทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ